ตลท.พร้อมเปิด LiVE Exchange ก่อนสิ้นปี 64 จับมือ ส.อ.ท.ดึงสมาชิกเข้าร่วม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 7, 2021 13:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. เตรียมเปิดให้บริการ LiVE Exchange ภายในปี 64 หลังจากร่วมกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พัฒนากฎเกณฑ์รองรับการระดมทุนรองสำหรับ SMEs และ Startups เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการและเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับผู้ลงทุน ภายใต้แนวคิด Light-touch supervision โดยปรับกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม เพื่อให้ SMEs และ Startups สามารถเข้าถึงแหล่งระดมเงินทุนผ่านกลไกตลาดทุน และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้ เพื่อให้ SMEs และ Startups มีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุน ตลท.จึงได้เปิดบริการ LiVE Platform โดยร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนกว่า 25 ราย พัฒนาองค์ความรู้ และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ อาทิ การเรียนรู้ผ่าน e-Learning บริการ Business Coaching เป็นต้น

รวมทั้งร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. อีกทั้งต่อยอดบริการบน LiVE Platform ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs / Startups ได้มากยิ่งขึ้น ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.เปิดเผยว่า การพัฒนา LiVE Exchange จะช่วยเปิดโอกาสให้สมาชิกที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะขยายธุรกิจให้เติบโต มีแหล่งเงินทุนมารองรับ โดย ส.อ.ท.อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการต่างๆ ร่วมกับ ตลท. และเคพีเอ็มจี ซึ่งจะมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ คาดว่าจะมีสมาชิกสนใจและพร้อมจะพัฒนาการเติบโตกว่า 100 บริษัท จากปัจจุบันที่ ส.อ.ท. มีสมาชิกอยู่ทั้งหมดกว่า 13,000 ราย ซึ่งมีผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงกลุ่ม Startups ใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาในเครือข่ายของ ส.อ.ท.มากขึ้น โดยมองว่าผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง และเฮลท์ แคร์ มีโอกาสในการพัฒนาในการเติบโตภายใต้แนวทางดังกล่าวป็นกลุ่มแรก ๆ "การส่งเสริมสมาชิกให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่างๆ เป็นภารกิจที่สำคัญที่ ส.อ.ท. ดำเนินการมาโดยตลอด สำหรับการระดมทุนในตลาดทุนเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สมาชิกให้ความสนใจ ซึ่งที่ผ่านมา การระดมทุนในตลาดทุนผ่าน SET และ mai ค่อนข้างยากสำหรับธุรกิจ SMEs และ Startups แต่ด้วยการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startups หรือ LiVE Exchange จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการ SMEs และ Startups สามารถเข้าถึงการระดมทุนได้ง่ายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี"นายสุพันธุ์ กล่าว

ขณะที่นายเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจเหล่านี้มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เคพีเอ็มจี ประเทศไทย มีประสบการณ์ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ รวมทั้งการบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคของผู้ประกอบการทั้งในด้านการขยายธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นอย่างดี โดยเต่ละองค์กรต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ให้ครบถ้วนและวิเคราะห์เชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านดำเนินธุรกิจ การเงิน การบัญชี ข้อบังคับทางกฎหมายและภาษี

เคพีเอ็มจี ประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการด้านสอบบัญชี ภาษี กฎหมายและที่ปรึกษาธุรกิจ มีความพร้อม มีผู้เชี่ยวชาญ และมีเครือข่ายเข้าถึงความรู้ เทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก เราพร้อมที่จะสนับสนุนในการร่วมยกระดับกลุ่มธุรกิจ SMEs และกลุ่ม Startups โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำโปรแกรมบ่มเพาะที่ได้รวบรวมความรู้ที่จำเป็น และจัดทำเป็นหลักสูตรเฉพาะให้กับ SMEs และ Startups โดยเคพีเอ็มจี ประเทศไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ