นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำช่วงนี้ระยะกลางยังเป็นลักษณะแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลงโดยปัจจัยกดดันให้ราคาทองปรับลดลงยังคงเป็นเรื่องเดิมเกี่ยวกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อเดือนก.ย. 64 ที่ผ่านมา ที่มีการประกาศเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินในการปรับลด QE ที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วสุดในเดือนพ.ย. 64 และอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุดปลายปีหน้า จึงเป็นปัจจัยกดดันทองคำเป็นระยะทำให้ราคาทองคำปรับลดลงไปในระดับต่ำ
โดยในระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาเนื่องจากยังมีประเด็นที่เป็นปัจจัยบวกระยะสั้น ทั้งเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องจับตา และประเด็นเพดานหนี้สหรัฐที่ถึงแม้จะมีการเพิ่มเพดานหนี้แล้ว แต่เป็นเพียงการขยายเพดานหนี้ในระยะสั้นเท่านั้น และสุดท้ายแล้วสภาคองเกรสจะต้องกลับมาพิจารณาเพิ่ม หรือระงับเพดานหนี้อีกครั้งในเดือนธ.ค. 64 ทำให้ทองคำผันผวนและดีดตัวขึ้นมา
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนตลาดทองคำที่ต้องจับตา คือ ความขัดแย้งระหว่างจีนสหรัฐที่เริ่มเป็นประเด็นขึ้นมา ดังนั้นในระยะสั้นนักลงทุนที่ลงทุนในทองคำจึงมีโอกาสเล่นเก็งกำไรตามรอบจากปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามากระทบทองคำในระยะนี้ ซึ่งในส่วนของตลาดทองคำในประเทศนั้นยังมีปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเข้ามาหนุนอีกหนึ่งปัจจัย ทำให้ราคาทองไทยยังยืนเหนือ 28,000 บาท/บาททองคำ ต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้นแนะนำให้รอจังหวะที่ทองคำดีดตัวแล้วขาย โดยมองแนวต้านที่ 1,771 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ หรือ 28,350 บาท/บาททองคำ ถ้าผ่านไปได้จะไปที่แนวต้านถัดไป 1,787 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ หรือ 28,600 บาท/บาททองคำ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ จะมีโอกาสปรับลดลง โดยให้แนวรับที่ 1,747-1,745 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ หรือ 27,950 บาท/บาททองคำ หากหลุดแนวรับนี้จะไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,740-1,735 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์
โดยในช่วงนี้แนวโน้มทองคำระยะกลางยังเป็นทิศทางไซด์เวย์ดาวน์ จึงแนะนำให้ซื้อเล่นสั้นเท่านั้น สามารถทำรอบได้แม้จะเป็นเทรนด์แกว่งตัวลง โดยแนวรับสำคัญในระยะกลางอยู่ที่ 1,676-1,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ หรือ 26,850 บาท/บาททองคำ หากยืนอย่าถือว่ายังมีโอกาสทดสอบกรอบบนได้ และแนวต้านสำคัญในระยะกลางจะอยู่ที่ 1,833 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ หากผ่านได้ทิศทางจึงจะสดใสมากขึ้น แต่ถ้าหลุดกรอบแนวรับสำคัญในระยะกลางอยู่ที่ 1,676-1,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ทิศทางจะทองคำจะเป็นลบมากขึ้น