นางยิ่งลักษณ์ คงคาสัย ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า โครงการความร่วมมือในการเชื่อมต่อโครงข่ายโดยตรงผ่าน Application Programing Interface หรือ API ระหว่างกรุงศรีและธนาคารพันธมิตร เพื่อพัฒนาบริการธุรกรรมระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจระยะกลางของกรุงศรีที่ต้องการเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั้งในไทยและอาเซียนไว้ด้วยกัน
โดยการใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบในการมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG และขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ด้วยบริการที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง โดยกรุงศรีประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อ API กับ Hattha Bank และสามารถเปิดให้บริการธุรกรรมระหว่างไทยกัมพูชาเป็นคู่แรก ก่อนที่จะขยายไปยังธนาคารพันธมิตรอื่นๆ ในอาเซียน ซึ่งรวมทั้งในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนามภายในปี 64 และยังมีอีกหลายประเทศที่อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาแผนการดำเนินงานร่วมกัน
"ภาพรวมธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ การลงทุน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างชาติ แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งธนาคารเชื่อว่าการเชื่อมโยงการโอนเงินระหว่างกรุงศรีและธนาคารพันธมิตรในอาเซียนจะเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมการทำธุรกรรมการค้า การลงทุนระหว่างประเทศอาเซียนให้เติบโตยิ่งขึ้น และยังเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาบริการทางการเงินให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริงอีกด้วย" นางยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายวันชัยระบิน จิตวัฒนาธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hattha Bank กล่าวว่า ในปี 63 ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ธุรกรรมการค้าระหว่างไทยและกัมพูชามีมูลค่าสูงถึงราว 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และในปี 64 มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น จำนวนบริษัทและผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาลงทุนและทำธุรกิจในกัมพูชามีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ดังนั้น การประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อ API สำหรับการโอนเงินต่างประเทศแบบเรียลไทม์ระหว่างกรุงศรี และ HTB ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสนับสนุนธุรกิจการค้าระหว่างสองประเทศให้คล่องตัวยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกที่ดีให้กับผู้ประกอบการไทยและกัมพูชา รวมทั้งบริษัทขนาดใหญ่ ทั้งในความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษและอัตราค่าธรรมเนียมที่ถูกลง
ธนาคารเชื่อมั่นว่าบริการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนธุรกิจการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของธนาคาร โดยก่อนหน้านี้ HTB ได้เปิดบริการ Thai-desk service เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับองค์กรธุรกิจและผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาทำธุรกิจในกัมพูชาอีกด้วย
ปัจจุบัน บริการโอนเงินต่างประเทศแบบเรียลไทม์ ไทย-กัมพูชา เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในเฟสแรกจะเป็นการโอนเงินต่างประเทศขาเข้าจาก Hattha Bank มายังลูกค้า BAY ที่มีบัญชีสกุลเงินบาท (THB) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) และ สกุลเงินเยน (JPY) สามารถโอนสูงสุดถึง 200,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อรายการ ซึ่งผู้รับเงินจะได้รับเงินเต็มจำนวน
ทั้งนี้ ผู้โอนสามารถทำธุรกรรมผ่านสาขาของธนาคาร HTB ทุกสาขาทั้ง 177 แห่งทั่วประเทศ พร้อมรับอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ และโปรโมชั่นค่าธรรมเนียมเพียง 2.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อรายการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 64 และในอนาคต ธุรกรรมดังกล่าวจะสามารถดำเนินการผ่าน Hattha โมบายแอปพลิเคชั่นได้อีกด้วย