ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์บวก 27.23 จุด หลังเคลื่อนตัวผันผวนตลอดวัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 3, 2007 05:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่สดใส แต่ก็สามารถดันขึ้นมาปิดในแดนบวกได้ในที่สุด หลังจากที่ความกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินได้รับการบรรเทาในช่วงท้ายของการซื้อขาย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้น 27.23 จุด หรือ 0.20% แตะระดับ 13,595.10 จุด หลังจากดิ่งลงมากกว่า 120 จุดในการซื้อขายช่วงแรก และเคลื่อนตัวผันผวนระหว่างแดนบวกและแดนลบ
ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.21 จุด หรือ 0.08% แตะระดับ 1,509.65 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 15.55 จุด หรือ 0.56% แตะระดับ 2,810.38 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.72 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 6 ต่อ 5
บรรยากาศการซื้อขายในวันสุดท้ายของสัปดาห์มีความผันผวนมาก เนื่องจากข่าวลบต่างๆ จากภาคการเงิน รวมทั้งยังได้รับปัจจัยลบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้เปิดเผยวานนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นถึง 166,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นจำนวนมากสุดในรอบ 5 เดือนและมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เกือบสองเท่า แต่รายงานข้อมูลที่นักลงทุนตั้งตารอก็ไม่ได้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจมากนัก
อย่างไรก็ดี ก่อนปิดตลาดไม่นาน ได้มีรายงานว่าบอร์ดของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ มีแผนที่จะจัดประชุมฉุกเฉินในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นของซิตี้กรุ๊ปและหุ้นสถาบันการเงินอื่นๆไม่ให้ร่วงลงรุนแรง
นักยุทธศาสตร์การลงทุนจาก Subodh Kumar & Assoc.ในโตรอนโต กล่าวว่า ตลาดมีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันการเงิน เขากล่าวว่าตลาดจะยังคงผันผวนต่อไปจนกว่าปัญหาต่างๆจะได้รับการแก้ไข หรือจนกว่าจะมีการปรับฐานเต็มที่ที่ 10%
ราคาน้ำมันกลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้งในการซื้อขายในตลาดนิวยอร์ก หลังจากที่รูดลงเมื่อวันพฤหัสบดี โดยในวันศุกร์ ราคาน้ำมันต่อบาร์เรลกระโดดขึ้น 2.44 ดอลลาร์ แตะที่ 95.93 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยเงินยูโรซื้อทำสถิติ 1.4527 ดอลลาร์
หุ้นที่ร่วงลงหนักที่สุดในการซื้อขายวันศุกร์ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน ดังเช่นที่เป็นมาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค, วอชิงตัน มูชวล อิงค์, โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นผลมาจากในช่วงหลายวันมานี้ นักวิเคราะห์หลายรายได้เผยบทวิจัยที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการหลุดพ้นจากวิกฤตตลาดสินเชื่อของบรรดาธนาคารและโบรกเกอร์
หุ้นซิตี้กรุ๊ปยังร่วงลงต่อเนื่องในวันนี้ โดยปิดลบที่ 78 เซนต์ หรือ 2%, หุ้นเมอร์ริล ลินช์ ร่วงลง 4.91 ดอลลาร์ หรือ 7.9%, หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ขณะที่หุ้นวอชิงตัน มูชวล ปิดลบ 1.94 ดอลลาร์ หรือ 7.5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ