นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบมจ.สีเดลต้า (DPAINT) เปิดเผยว่า DPAINT จะมีการกำหนดราคาหุ้น IPO และเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไป ภายในเดือนต.ค.นี้ พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในไตรมาส 4/64 โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 53.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 1 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 23.15% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
ทั้งนี้บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และสร้างโรงงานใหม่ที่สุวินทวงศ์ คาดดำเนินการแล้วเสร็จในปี 68, ซื้อเครื่องผสมสี จำนวน 440 เครื่อง ในช่วงปี 65-68, พัฒนาระบบจัดการข้อมูลทางธุรกิจ ERP ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ, สร้างห้องปฎิบัติการ หรือห้อง LAB วิจัย เพื่อตรวจสอบและควบคุมคุณภาพสินค้า พร้อมทั้งคิดค้นสินค้าใหม่ในอนาคต และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และทำการตลาด ขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ รวมถึงชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นบางส่วน และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
สำหรับจุดเด่นของ DPAINT มองว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายสีทาอาคารที่มีความเชี่ยวชาญ ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารจากตระกูลตั้งคารวคุณในรุ่นแรก ที่ทำธุรกิจมา 42 ปี จนมารุ่นที่ 2 ที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ พร้อมที่จะปฏิวัติธุรกิจสีทาอาคารในประเทศไทยให้เข้าสู่ยุค 5.0 รวมทั้งมุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด บริหารจัดการส่วนประสมผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ในกลุ่มสีคุณภาพพิเศษให้มีสัดส่วนสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน DPAINT ยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปี แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยในปี 63 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการ 596.2 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 41.9 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 41.9% อัตรากำไรสุทธิ 7.0% ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 มีรายได้จากการขายและบริการ 387.7 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.7% กำไรสุทธิ 32.9 ล้านบาท เติบโต 48.2% อัตรากำไรขั้นต้น 43.3% อัตรากำไรสุทธิ 8.5%
"เงินที่ได้จากการระดมทุน จะช่วยยกระดับให้บริษัทฯ มีโรงงาน และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และรบกวนสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นในอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งแผนการลงทุนในเครื่องผสมสี เพื่อเป็นการขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดจำนวนสต็อก รวมถึงจำนวน SKU ของผลิตภัณฑ์ บริหารต้นทุนในการผลิต และจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงสนับสนุนให้สินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรสูงเติบโตมากขึ้น พร้อมนโยบายการจ่ายปันผลที่ดีในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า DPAINT เป็นบริษัทที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคง และน่าจับตามอง" นางสาวเดือนพรรณ กล่าว
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สีเดลต้า (DPAINT) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ในช่วงของการเดินสายโรดโชว์ โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องด้วยบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ทั้งสีคุณภาพพิเศษ ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี, สีคุณภาพสูงมีอายุการใช้งาน 5-10 ปี และสีคุณภาพคุ้มค่ามีอายุการใช้งาน 1-5 ปี อีกทั้งยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกกึ่งสมัยใหม่ และร้านค้าปลีกดั้งเดิมรวมมากกว่า 1000 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนี้บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ เช่น ผู้รับเหมาและช่างทาสี เจ้าของที่พักอาศัย และเจ้าของโครงการภาครัฐและเอกชน
พร้อมกันนี้การเติบโตของอุตสาหกรรมสีทาอาคาร ยังมีการเติบโตตามแนวโน้มเศรษฐกิจ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก และวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ โดยมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้ซ้ำมากกว่าวัสดุอื่นๆ ที่อาจพึ่งพา New Demand อย่างเดียว จึงทำให้ Demand ค่อนข้างสม่ำเสมอ หรือมีมูลค่าการตลาดราว 2 หมื่นล้านบาท
นายรณฤทธิ์ กล่าว สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯ คาดว่า ไตรมาส 4/64 จะมีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 เนื่องจากได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และการชัดดาวน์ รวมถึงยังเป็นช่วงของโลซีซั่นของธุรกิจ จากปัจจัยฤดูกาล (ฤดูฝน)
ทั้งนี้เมื่อมองไปในปี 65 ก็คาดว่าจะได้รับผลดีจากการคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับตลาดและสินค้าในพอร์ตของบริษัทฯ
"เราสามารถสังเกตได้ว่า ตึก 1 ตึก อาจจะมีอายุการใช้งาน 50 ปีขึ้น ด้วยอาศัยเทคโนโลยีวิศวกรรม แต่การใช้สี อาจจะมีความต้องการใช้ 5 ปี หรือ 10 ปี แปลว่าใน 1 ตึก อาจจะต้องใช้สีถึง 5 รอบ และยังไม่รวมถึงภาคท่องเที่ยวที่จะกลับมาฟื้นตัวหลังจากนี้ ที่จะทำให้ Demand ของการใช้สี ตามอาคารที่เป็นโรงแรม หรือสถานที่ท่องเที่ยว อย่างเช่นในต่างประเทศที่จะมีกฎหมายเพื่อทำให้บ้านเมืองสวยขึ้นก็จะเป็นกลุ่มที่ทำให้อุตสาหกรรมสีมีความน่าสนใจ" นายรณฤทธิ์ กล่าว
บริษัทฯ ยังมีความแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ในอุตสาหกรรมสี โดยในกลยุทธ์ทางธุรกิจ แบ่งออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ, สร้าง Brand Awareness ที่ทำให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจมากขึ้น, เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายการตลาด และส่งเสริมการขาย, เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
ขณะที่บริษัทฯ ยังมีจุดแข็ง ประกอบด้วย D : Diversification คือ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์สีทาอาคารหลากหลายประเภทหลากหลายแบรนด์ ตอบสนองความต้องการของ ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม และมีช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลายครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ
P : Productivity คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงาน โดยยึดหลักการ คุณค่าที่มากกว่ารบกวนลูกค้าน้อย กระบวนการที่ง่าย สบายใจ เข้าถึงได้ รบกวนสังคมและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดรวมถึงนำการบริหารแบบ Lean Management มาเพิ่มประสิทธิภาพลดการสูญเสียในการผลิต
A : Agility คือ ความคล่องตัวในการบริหารงานขององค์กร การเปิดรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ได้รวดเร็ว ประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์อยู่เสมอ มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง
I : Innovation คือ ความโดดเด่นด้านนวัตกรรมโดยมุ่งมั่นเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีการเคลือบผิว (Coating Solution) ทีมวิจัยและพัฒนาที่นำเสนอผลิตภัณฑ์สู่ตลาดได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน แสวงหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์และก้าวสู่ความเป็นสากล
N : New opportunity คือ โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ บริษัทฯ วางเป้าก้าวสู่ยุคเดลต้า 5.0 พร้อมปรับตัวสู่ความเป็นสากลพัฒนานวัตกรรมของสินค้าการผลิตและการดำเนินงานรวมถึงแผนการขยายธุรกิจต่างๆ
T : Trust คือ ความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ โดยบริษัทมีประสบการณ์ ในอุตสาหกรรมผลิตและจัดจำหน่ายสีทาอาคารกว่า 42 ปี, มีทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จากวงการต่างๆ, ใช้หลัก Ikigai ยึดมั่นในความยั่งยืนในทุกกระบวนการดำเนินงาน, มีการเติบโตต่อเนื่องในหลัก Double Digit ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19, มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในช่วงสามปีที่ผ่านมา และ รายได้จากการขายในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเติบโตขึ้น 31.7%