บมจ.ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO)วางโรดแมปขยายโครงข่ายด้านการตลาดก้าวสู่การเป็นบริษัทออร์กาไนซ์อันดับหนึ่งในแถบอาเซียน โดยจะขยายไปทั้งในรูปของบริษัทร่วมทุน ตั้งสำนักงาน Representative หรือ Sale Office หลังขยับรับงานต่างประเทศเพิ่ม เพื่อลดผลกระทบงานในประเทศชะลอตัว พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้แตะหลักพันล้านบาท
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมีแผนปรับสัดส่วนรับงานต่างประเทศในปี 51 เพิ่มเป็น 20% จาก 10% ในปัจจุบัน หลังจากที่บริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในต่างประเทศ พบว่ามีงานการทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ช่วยลดความเสี่ยงจากปัจจัยกดดันต่างๆในประเทศ รวมทั้ง ช่วยขยายเครือข่ายและฐานลูกค้าของบริษัทฯให้ครอบคลุมพื้นที่ในแถบอาเซียนตามโรดแมปที่วางไว้
"เราวางโรดแมปว่าจะไปทั่วอาเซียนพร้อมกับเขตการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งจะมีการตัดถนนเชื่อม พรมแดนจะเป็นอิสระมากขึ้น เราก็จะให้บริการจากกรุงเทพฯไป ซึ่งตอนนี้ก็ได้เห็นบริษัทร่วมทุนของเราแล้วที่กัมพูชา และอนาคตอาจจะตั้งเป็นบริษัท หรือ Representative Office เพิ่ม"นายเสริมคุณ กล่าว
ก่อนหน้านี้ CMO ได้เข้าร่วมทุนในสัดส่วน 75% จัดตั้งบริษัท Bayon CM Organizer ที่กัมพูชา ขณะที่ Bayon media high system ถือหุ้น 25%
นายเสริมคุณ ยังแสดงความมั่นใจว่า รายได้ปี 51 จะดีกว่าปีนี้ เนื่องจากบริษัทมี Backlog รอที่จะรับรู้ในปีหน้าแล้วประมาณ 400 ล้านบาท อีกทั้งการหันไปรับงานในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งงานต่างประเทศในมือตอนนี้มีอยู่ 3 งาน ได้แก่ งานแสดงแสงสีเสียงที่นครวัด และ งาน รีเจ้นท์ ออฟ อังกอร์วัดปี 51 ที่ประเทศกัมพูชา
งานอีเว้นท์ที่นครวัด มูลค่า 40 ล้านบาทต่อปี จะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/50 ประมาณ 15 ล้านบาท และ ที่เหลือรับรู้ในช่วงไตรมาส 1/51
"งานที่นครวัด ซึ่งเป็นงานที่บริษัท Bayon CM Organizer ถ้าเราทำแล้วดีก็อาจจะได้รับอนุญาตให้ทำต่อเนื่องทุกปี"นายเสริมคุณ กล่าว
และ ล่าสุด กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าจ้างให้ CMO จัดทำและบริหารจัดการนิทรรศการ งาน World Water Expo2008 (Expo Zaragoza 2008) ณ เมืองซาราโกซา ราชอาณาจักรสเปน ระหว่าง 14 มิ.ย.-14 ก.ย.51 มูลค่า 118.40 ล้านบาท รัฐบาลไทยเป็นผู้ออกทุนทั้งหมด บริษัทจะใช้ทีมงานจากประเทศไทยจัดเตรียมงาน คาดว่ารายได้จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ปีหน้า
ส่วนงานในประเทศขณะนี้มีงานที่จะร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลจัด Countdown ส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สัญญา 4 ปี (ตั้งแต่ปี 50-53) ปีละ 30 ล้านบาท เป็นรายได้จากสปอนเซอร์ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีสปอนเซอร์ติดต่อเข้ามาแล้ว 15 ล้านบาท
"งาน Countdown ที่เซ็นทรัลเวิลด์ รายได้จะเข้ามาเฉลี่ยปีละ 30 ล้าน แต่ปีนี้อาจจะยังไม่ถึงเพราะเป็นช่วงสร้างแบรนด์ แต่เชื่อว่า พอเข้าปีที่ 2 ถึงปีที่ 4 รายได้สปอนเซอร์จะเข้ามาเต็มแน่ๆ แต่ตอนนี้ก็มีสปอนเซอร์เข้ามาแล้วกว่า 15 ล้านบาท"นายเสริมคุณ กล่าว
งานหัวหิน Jazz ประมาณเดือน มิ.ย.51 เป็นงานใหญ่มาก, เดือน ต.ค.งานเทศกาลวัดอรุณ, พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย อีกกว่า 166 ล้านบาท
"อีกไม่นานรายได้เราจะแตะพันล้าน"นายเสริมคุณ กล่าว
"งานปีหน้าแค่นี้ก็ใกล้ๆ 400 ล้านแล้ว เพราะฉะนั้นปีหน้าเรามั่นใจสุดๆ จากปีนี้ที่คงถดถอยจากปีก่อนเยอะ รายได้คงไม่ถึง 785 ล้าน แต่ยังมั่นใจว่าปีนี้จะยังมีกำไรแม้ว่างวด 9 เดือนจะขาดทุนอยู่เกือบๆ 7 ล้านบาทก็ตาม เพราะมีโครงการที่รอรับรู้รายได้ในช่วงนี้อยู่ประมาณ 80 ล้านบาท อีกทั้งเราเลือกรับงานที่มั่นใจว่ามีกำไรแน่ๆและรับงานที่ใช้เงินลงทุนไม่มากหรือไม่ก็มีเจ้าของเงินทุน"นายเสริมคุณ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--