BGH คาดเทนเดอร์ฯหุ้น RAM แล้วเสร็จก.พ. 51 ตั้งเป้าถือไม่ต่ำกว่า 30%

          บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH)  คาดบริษัทจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อ(เทนเดอร์ออฟเฟอร์) หุ้นบมจ.โรงพยาบาล รามคำแหง(RAM) แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 51 และบริษัทตั้งเป้าเข้าถือหุ้น RAM ไม่ต่ำกว่า 30% จากปัจจุบันถืออยู่ 19% 
          น.พ.วัลลภ อธิคมประภา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BGH  กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นใน RAM จะทำให้ BGH มีโรงพยาบาลครอบคลุมทั่วประเทศ และยังทำให้การเติบโตทั้งรายได้และกำไรในอนาคตดีขึ้น โดย RAM มีอัตราการเติบโตกำไรสุทธิถึง 14% สูงก่า BGH ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 7% 
          "ที่ผ่านมาเราได้หารือกับผู้ถือหุ้นเดิม ของ RAM เพิ่ม นอกเหนือจากที่เข้าซื้อได้แล้วบางส่วน หากเราได้จำนวนหุ้นที่เพียงพอ ก็จะมาดูว่าหุ้นที่ไขว้กันอยู่จะทำอย่างไร หรือ โรงพยาบาลกรุงเทพ (BGH) ต้องเพิ่มทุน" น.พ.วัลลภ กล่าว 
          แม้ว่าราคารับซื้อในการทำเทนเดอร์ฯที่ 480 บาท ต่ำกว่าราคาในกระดาน แต่บริษัทได้หาหรือกับที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม  และ การซื้อขายหุ้น RAM ก็มีจำนวนน้อย 
          "จริงๆแล้วใจผมก็อยากได้ 100% แต่คงไม่ได้ และผู้ถือหุ้น RAM ก็กระจัดกระจาย ผมก็คงเอาเท่าที่ได้" น.พ.วัลลภ กล่าว 
          ส่วนรายได้ในปี 50 คาดว่าจะเติบโต 19% จากปีก่อนที่มี 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราเติบโตใกล้เคียงกับงวด 9 เดือนปี 50 แต่ในส่วนอัตรากำไรสุทธิ ในปีนี้จะปรับตัวดีกว่าในงวด 9 เดือนที่อยู่ที่ระดับ 7%  แต่ก็ยังต่ำกว่าปีก่อนที่อยุ่ 8% 
          เนื่องจากในปีนี้โรงพยายาลในกลุ่ม BGH มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ทั้งการลงทุน และค่าใช้จ่ายกิจกรรมต่างๆ รวมทั้ง การเพิ่มจำนวนพยาบาลและลูกจ้างจึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น 
          สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 5 พันล้านบาท ในช่วงเดือนก.พ. 51 เพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ จะช่วยทำให้บริษัทมีต้นทุนการเงินลดลง 1% โดยปัจจุบันมีเงินกู้ 7 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR