ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมค้าปลีกในอังกฤษ หลังจากบริษัทซิกเน็ทซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างอังกฤษและสหรัฐ ประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2550 และรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทสแต็ปเพิลส์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 39.8 จุด แตะระดับ 6,140.7 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 6,061.8-6,197.1 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.6 พันล้านหุ้น
นายคีท บาวแมน นักวิเคราะห์จากบริษัทฮาร์เกรฟ แลนส์ดาวน์ กล่าวว่า "ข่าวผลประกอบการที่ตกต่ำของบริษัทค้าปลีกเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในสหรัฐ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก"
ทั้งนี้ สำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 87.3 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 95.2 ในเดือนต.ค. และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2548
ข่าวผลประกอบการที่ไม่สดใสของบริษัทบางแห่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกดิ่งลง โดยหุ้นซิกเน็ทร่วงลงเกือบ 17% หลังจากบริษัทประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2550 ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 3 ขณะที่หุ้นโฮมรีเทล ร่วงลง 16.5 เพนซ์ ปิดที่ 340.5 เพนซ์ หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 17 เพนซ์ ปิดที่ 597 เพนซ์ และหุ้นเน็กซ์ดิ่งลง 68 เพนซ์ ปิดที่ 1,709 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าดิ่งลง 26.5 เพนซ์ ปิดที่ 658.5 เพนซ์ หุ้นเวดันตาร่วงลง 81 เพนซ์ ปิดที่ 1,975 เพนซ์ และหุ้นคาซัคมิสปรับตัวลง 30 เพนซ์ ปิดที่ 1,260.5 เพนซ์
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน หลังจากธนาคารบาร์เคลย์สได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กิจการของธนาคารจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 4% ในปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--