(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: แรงเทขายทำกำไรกดคอมโพสิตปิดขยับลง 1.71 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 1, 2007 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดขยับลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีเคลื่อนไหวพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ในช่วงเปิดตลาดเช้านี้ ขานรับการปิดพุ่งทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดยเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.25% หลังจากที่ลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งสองครั้งนี้จะเป็นการดำเนินการที่เพียงพอต่อการช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้รอดพ้นจากวิกฤตสินเชื่อและปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดขยับลง 1.71 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 2,063.14 จุด โดยดัชนีพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเปิดตลาดเช้านี้ที่ 2,084.55 จุด ซึ่งทะลุระดับสูงสุดที่ทำไว้ในก่อนหน้านี้ที่ 2,070.86 จุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โอห์ ฮุน-ซอก นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ซัมซุงกล่าวว่า นักลงทุนพากันเทขายทำกำไรหลังจากที่เห็นว่าราคาน้ำมันพุ่งทะลุระดับ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดน้ำมันสิงคโปร์ ขณะที่เงินวอนยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
"ดัชนีคอมโพสิตปิดทำการในระดับที่ตลาดเคลื่อนไหวย่ำฐานทรงตัวหลังจากที่การซื้อขายเริ่มเบาบางลง"นายโอห์กล่าว
ส่วนหุ้นกลุ่มเครื่องจักรและกลุ่มค้าปลีกถีบตัวสูงขึ้นจากแนวโน้มยอดขายที่สดใสขณะที่หุ้นกลุ่มการเงิน เทคโนโลยี และกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลดลงหลังจากที่พุ่งขึ้นร้อนแรงเมื่อช่วงที่ผ่านมา
ในวันนี้ตลาดมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 396 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 8.6 ล้านล้านวอน
ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหนักปิดทะยานขึ้นจากกระแสคาดการณ์ว่าบริษัทเหล่านี้จะได้รับคำสั่งซื้อจากประเทศในตะวันออกลางเพิ่มมากขึ้นอันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หุ้นดูซานเฮฟวี่ ปิดทะยานขึ้น 11.3% ขณะที่หุ้นดูซานซึ่งเป็นบริษัทแม่ปิดพุ่งขึ้น 10.1% เช่นเดียวกับหุ้นบริษัทต่อเรือรายใหญ่ที่สดุในโลกอย่างฮุนได เฮฟวี่ปิดบวกขึ้น 4.8%
สำหรับหุ้นชินเซเก ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ปิดทะยานขึ้น 6% จากการคาดการณ์ที่ว่าผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นและค่าเงินวอนยังคงแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ