(เพิ่มเติม) EGCO ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนในช่วง 5 ปีแม้ชนะประมูล IPP/ศึกษาแตกพาร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 20, 2007 18:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO) เชื่อว่ากระแสเงินสดที่มีเพียงพอลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน แม้ว่าจะได้ยื่นเข้าประมูลโรงไฟฟ้า IPP และมีโครงการร่วมทุนในต่างประเทศ เนื่องจากคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 51 รายได้จะเพิ่มขึ้น 10% จากที่มีรายได้เกินเป้าหมายมาที่ 2.3 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ขณะที่บริษัทเดินหน้าศึกษาแผนแตกพาร์อย่างจริงจังเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีหน้า
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าวว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้จะมาจากรายได้ของโรงไฟฟ้าใหม่ คือ โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ที่คาดว่าจะผลิตได้เต็มกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ตั้งแต่สิ้นปีนี้ ซึ่งเร็วขึ้นกว่าแผนเดิมที่จะเริ่มในเดือน มี.ค.51 นอกจากนั้นยังมั่นใจว่าจะชนะประมูลโรงไฟฟ้า IPP อย่างน้อย 1 โรง หรือ 30% ของจำนวนที่รัฐบาลเปิดรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด 3.2 พันเมกะวัตต์
"9 เดือนที่ผ่านมา เราก็ทำรายได้ไปแล้ว 2.1 หมื่นล้านบาท เกินเป้าที่เราวางไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท คิดว่าปีนี้จะได้ 2.3 หมื่นล้านบาท และเราตั้งเป้าทุกปีว่าจะโต 10% แต่ผมคิดว่าปีหน้าจะมากกว่า เพราะเรามีโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามา"นายวิศิษฎ์ กล่าว
*กังวลโรงไฟฟ้าถ่านหินตัดราคาแข่งประมูล
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ในเดือนธ.ค.นี้จะมีการประกาศผลผู้ที่ชนะการประมูลโรงไฟฟ้า หลังจากที่มีผู้ผ่านเทคนิคได้ 17 โครงการจาก 20 โครงการ ซึ่งทั้ง 3 โครงการของบริษัทที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผ่านเทคนิคทั้งหมด
แต่แม้จะมั่นใจว่าบริษัทจะได้งานประมูลอย่างน้อย 1 โรง แต่ก็ยังกังวลว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งผ่านการพิจารณาด้านเทคนิคมา 5 โครงการนั้นมีโอกาสได้ชนะประมูล เพราะมีต้นทุนต่ำกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากภายใน ก.ย. 51 โรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ผ่านการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ก็จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาเพราะเท่าที่ทราบมีโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ผ่านเทคนิคมีที่ตั้งโรงไฟฟ้าอยู่ในป่าชายเลน และประชาชนก็ยังไม่ยอมรับโรงไฟฟ้าถ่านหิน
"ราคาที่เราเสนอไปก็คิดว่าดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าคณะกรรมการพิจารณาฯเอาโรงไฟฟ้าถ่านหินมาพิจารณารวมกับโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซ ก็คิดว่าสู้ต้นทุนไม่ได้ เพราะราคาก๊าซวันนี้พุ่งสูงตามราคาน้ำมัน เราก็อยากให้แยกพิจารณาโรงไฟฟ้า 2 กลุ่ม ... หนักใจว่าเที่ยวนี้เมื่อ mix โรงไฟฟ้าถ่านหินก็มีโอกาสได้เพราะต้นทุนต่ำกว่า" นายวิศิษฎ์ กล่าว
ทั้งนี้ EGCO ได้เสนอ 3 โครงการ รวม 2.8 พันเมกะวัตต์ ได้แก่ ที่จ.ระยอง , จ.ราชบุรี และที่ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยมีสัญญาซื้อขายก๊าซตลอดอายุสัญญา 25 ปี และคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.6 หมื่นล้านบาทต่อโรงไฟฟ้า 1 โรง
"เที่ยวนี้เราไม่สบายใจ เพราะมีบริษัทร่วมทุนต่างประเทศทีเป็นเสือหิว ต้องสู้กันที่หลักเกณฑ์...หลังประกาศที่ผ่านทคนิค ก็ต้องมาดูที่ราคา ปีนี้น่าจะดูรายละเอียดโรงไฟฟ้าตั้งแต่กระบวนการผลิต เชื้อเพลิงที่มารองรับ สายส่ง"นายวิศิษฎ์ กล่าว
*ขยายลงทุนตปท.หวังเป็นผู้นำในภูมิภาค
กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายการลงทุนในภูมิภาคนี้ เพื่อเป้าหมายเป็นผู้นำผลิตไฟฟ้า ซึ่งได้มีการจะเข้าไปลงทุนในลาว , กัมพูชา , ฟิลิปปินส์
สำหรับโครงการในลาว บริษัทได้เข้าลงทุน 40% ในโครงการน้ำเทิน 1 มีกำลังการผลิต 523 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 56 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาค่าไฟฟ้าในขั้นสุดท้ายกับกฟผ. และโครงการโรงไฟฟ้าเขื่อนน้ำอู ที่บริษัทได้เสนอเข้าลงทุน 25-30% กับซิโนไฮโดร จากจีน ถือหุ้นใหญ่โครงการนี้ คาดจะได้ข้อสรุปในปลายเดือนพ.ย.นี้ โดยจะมี 3 ฝ่ายร่วมทุนโครงการนี้ได้แก่ ซิโนไฮโดร , รัฐบาลลาวที่คาดถือ 15-20% และ EGCO
สำหรับในฟิลิปปินส์ คาดว่าจะลงทุนพลังงานใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานความร้อนจากใต้ดิน ซึ่งอยู่ตอนกลางเกาะมินาเดา ซึ่งจะมีการศึกษาโครงการต่อไป ขณะที่ในกัมพูชายังไม่มีความคืบหน้า
"เรายังมีสิทธิโตในต่างประเทศ เราก็ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้" นายวิศิษฎ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังลม ที่มีกำลังการผลิต 30-35 เมกะวัตต์ ที่จ.นครศรีธรรมราช ใช้เงินลงทุน 1.8 พันล้านบาท โดยบริษัทจะลงทุน 30% และ บมจ.ปตท.(PTT) ถือ 30% เช่นกัน โดยในไตรมาส 2/51 จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการหรือไม่
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะ ในจ.ภูเก็ต มีกำลังการผลิต 20-25 เมกะวัตต์ โดย EGCO เข้าร่วมทุน 50% ปตท. 35% และ SEPCO Asia 15% มูลค่าโครงการ 1.6-1.7 พันล้านบาท คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 1/51
รวมทั้งโครงการขนส่งก๊าซธรรมชาติ ที่ระยอง โดยบริษทร่วมทุน 20% ปตท. 50% และ กฟผ.30% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 54 เฟสแรก 5 ล้านตันตันปี และเฟสสอง 10 ล้านตันต่อปี
พร้อมกันนั้น ในปีหน้าเตรียมเจรจาต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประทศไทย(กฟผ.)สำหรับโรงไฟฟ้าขนอมและ โรงไฟฟ้าระยองที่หมดในปี 54 และ 57 ตามลำดับ โดยจะขอต่ออายุไปอีกโรงละ 10 ปี

แท็ก ผลิตไฟฟ้า   (EGCO)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ