นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ Silom Edge มูลค่าโครงการกว่า 1.8 พันล้านบาท บนที่ดินเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ระยะเวลาเช่า 30 ปีหัวมุมถนนสีลม ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน
โครงการ Silom Edge เป็นโครงการ Re-development แห่งแรกของ FPT ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งและกระจายความเสี่ยง พร้อมเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่พอร์ตฯคอมเมอร์เชียลของบริษัท เนื่องจากมีพื้นที่โครงการเป็นสำนักงานให้เช่า 12,000 ตารางเมตร และ พื้นที่ค้าปลีกให้เช่า 10,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป
บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพของที่ตั้งโครงการที่อยู่หัวมุมถนนสีลม ซึ่งเป็นสุดยอดทำเลใจกลาง CBD เชื่อมต่อกับทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT และยังเคยเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำหลายแห่ง ทำให้ถนนสีลมเป็นหนึ่งในถนนเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ และเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ปัจจุบันไม่มีที่ดินว่างมากพอสำหรับพัฒนาโครงการใหม่
บริษัทจึงตัดสินใจเข้าลงทุนในทรัพย์สินนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส สอดคล้องกับกลยุทธ์การสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร Silom Edge เป็นต้นแบบโครงการ Re-development ที่นำอาคารเก่ามาแปลงเป็นมิกซ์ยูสพันธุ์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์แหวกแนว "The new sandbox community in CBD"
การพัฒนาโครงการนี้ปฎิวัติรูปแบบการพัฒนาอาคารแบบเดิม ด้วยการคิดนอกกรอบเปิดตัวพื้นที่แซนด์บ็อกซ์บนสุดยอดทำเล ตอบโจทย์ความต้องการของคน Gen ใหม่ในยุคดิจิทัล เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ผู้ประกอบการธุรกิจ Start-Up และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไปจากเดิม การซื้อสินค้าและบริการออนไลน์กลายเป็น New Norm
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบนโลกออนไลน์เริ่มเห็นความจำเป็นในการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าบนโลกออฟไลน์ ดังนั้นการมีออฟฟิศหรือร้านค้าบนทำเลใจกลางกรุงเทพฯที่เดินทางสะดวก จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันธุรกิจด้วยความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล จึงเกิดแนวคิด "BE DIFFERENT. BE CONNECTED." วิถีแตกต่าง ที่จะเชื่อมโยงผู้คนในทุกมิติอย่างลงตัว
ปัจจุบันโครงการ Silom Edge เริ่มดำเนินการพัฒนาไปแล้วกว่า 65% ด้วยทีมออกแบบและทีมก่อสร้างที่มีคุณภาพ มั่นใจว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ก.ย. 65
นายธนพล กล่าวว่า โครงการ Silom Edge จะเข้ามาทดแทนรายได้ค่าเช่าในส่วนของโครงการ Golden Land Building ซอยมหาดเล็กหลวง 1 ที่จะหมดสัญญาเช่าที่ดินในปี 65 โดยคาดว่าจะมีรายได้ค่าเช่าจาก Silom Edge เข้ามาเต็มที่ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท/ปี และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาคืนทุนราว 9-10 ปี อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ย 10% ต่อปี
สำหรับผู้เช่าที่สนใจเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานของ Silom Edge ส่วนหนึ่งจะเป็นผู้ประกอบการบริหารพื้นที่ Co-Working Space อยู่ระหว่างการเจรจา 3 ราย ใช้พื้นที่ราว 30% ของพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงบริษัทจะเปิดโอกาสให้ผู้เช่าเดิมจากโครงการ Golden Land Building ซอยมหาดเล็กหลวง 1 ที่สนใจย้ายมาเช่าที่โครงการ Silom Edge สามารถจองเช่าพื้นที่ได้ก่อน
ส่วนพื้นที่ค้าปลีก 10,000 ตารางเมตรใน Silom Edge ยังอยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบ คาดว่าจะเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ในช่วงปี 65 พร้อมกับบริษัทจะปรับปรุงทางเชื่อมในส่วนของ Sky walk และทางเชื่อมสะพานลอยข้ามแยกสีลมไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้เช่าโครงการและประชาชนที่เดินทางในพื้นที่ย่านสีลมให้มีความสะดวกมากขึ้น
ด้านอัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในโครงการ Silom Edge ในเบื้องต้นคาดว่าจะถูกกว่าค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในอาคารออฟฟิศที่แพงที่สุดในกรุงเทพฯราว 30-40% หรือมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 750-800 บาท/ตารางเมตรสำหรับพื้นที่เปล่า โดยที่บริษัทมองว่าความต้องการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในกรุงเทพฯยังสูง แม้จะการทำงานที่บ้าน (WFH) ในช่วงโควิด-19 แต่มองว่าการกลับมาทำงานในสำนักงานยังมีความจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการต่างๆในความสะดวกเรื่องการทำงานและประสานงานต่างๆ
ขณะที่ย่านสีลมยังคงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ผู้ประกอบการต่างๆให้ความสนใจจากสภาพแวดล้อม การเดินทางเชื่อมโยงไปที่ต่างๆ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทำให้สีลมยังเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่ผู้ประกอบการยังให้ความสนใจเข้ามาเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับแผนงานธุรกิจของ FPT ในรอบปีบัญชี 64/65 (ต.ค. 64 - ก.ย. 65) ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนก่อนประกาศในช่วงเดือน พ.ย. 64 โดยธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายจะเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวราบ แม้ว่าจะมีผลกระทบจากโควิด-19 ที่กดดันกำลังซื้อชะลอตัวบ้าง แต่มองว่าความต้องการซื้อยังมีอยู่มาก
ด้านพื้นที่เช่าคลังสินค้ายังได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของธุรกิจ e-Commerce ที่ทำให้มีผู้ประกอบการหันมาเช่าพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มมากขึ้น และการลงทุนใหม่ๆของผู้ประกอบการต่างๆทำให้ความต้องการใช้คลังสินค้าอยู่ในระดับสูง และมีการเติบโตตามเศรษฐกิจและการลงทุนที่จะเกิดขึ้นอีกมากในอนาคต เช่นเดียวกับอาคารสำนักงานที่ยังคงมีการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการเช่าเกินกว่า 90% อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่ค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ได้รับแรงกดดันมากที่สุดในช่วงโควิด-19 จากมาตรการล็อกดาวน์และความกังวลการใช้บริการห้างหรือศูนย์การค้า และการชะลอการจับจ่ายใช้สอยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และนักท่องเที่ยวที่หายไป แต่มองว่าหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง และเริ่มมีการกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศ ทำให้คนกลับเข้ามาใช้บริการในห้างและศูนย์การค้ามากขึ้น โดยในช่วงหลังคลายล็อกดาวน์ 1 เดือนที่ผ่านมามีคนกลับเข้ามาใช้บริการในสามย่านมิตรทาวน์เฉลี่ย 30,000 คน/วัน แม้ว่ายังคงน้อยกว่าช่วงปกติที่เฉลี่ย 60,000-70,000 คน/วัน และร้านค้าในโครงการก็เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการครบแล้ว