โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) รับปัจจัยหนุนเปิดประเทศทำให้กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติจะเริ่มทยอยกลับเข้ามาใช้บริการเครือโรงพยาบาลของ BDMS มากขึ้น หนุนรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติกลับมา และแนวโน้มของผลการดำเนินงานของ BDMS จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวมากขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/64 ยังมีรายได้เข้ามาเสริมจากการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกที่จะเริ่มมีการทยอยส่งมอบและเริ่มทอยยฉีดให้กับลูกค้าที่จองไว้ อีกทั้ง BDMS ยังเป็นหุ้นที่ราคาค่อนข้าง Laggard กว่าหุ้นอื่นในกลุ่มโรงพยาบาล ทำให้ยังมีความน่าสนใจและมีอัพไซด์จากการฟื้นตัวที่กลับมาของผลการดำเนินงานในช่วงต่อไปได้
ราคา BDMS ปิดเที่ยงที่ 23.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนี SET บวก 0.30%
โนมูระฯ ซื้อ 29.00 ไทยพาณิชย์ ซื้อ 28.00 หยวนต้า ซื้อ 27.90 ยูโอบีฯ ซื้อ 27.50 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 27.00 ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี ซื้อ 27.00 กสิกรไทย ซื้อ 26.70 นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า BDMS เป็นหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศมากขึ้น จากการที่จะมีกลุ่มลูกค้าจากต่างชาติกลับเข้ามาเดินทางรักษาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่หายไปในช่วงโควิด-19 คาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเริ่มทยอยกลับเข้ามา และจะเห็นมากขึ้นในปีหน้า ส่งผลให้รายได้จากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามากหนุนผลารดำเนินงานมากขึ้น ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/64 ยังมีปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานจากรายได้บริการฉีดวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาเข้ามาสนับสนุนช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เสริมจากรายได้การให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อีกทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีการรักษาในโรงพยาบาลคาดว่าจะเริ่มทยอยกลับเข้ามามากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศกลับมาดีขึ้น จะทำให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัวหลังจากที่ได้รับแรงกดดันจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ขณะที่ราคาหุ้น BDMS ยังค่อนข้าง Laggard กว่ากลุ่ม ซึ่งแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 29 บาท/หุ้น นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การฟื้นตัวของ BDMS จะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการกลับมาเปิดประเทศ จากลูกค้าชาวต่างชาติเริ่มกลับมารักษาได้อีกครั้ง ทำให้มีรายได้จากการรักษากลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาหนุน และเป็นกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นที่ดี แต่มองว่าการกลับมาของลูกค้าชาวต่างชาติในช่วงแรกยังไม่มาก แต่จะเริ่มเห็นมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 เป็นต้นไป ขณะที่ในปี 64 ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการให้บริการตรวจและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามาหนุนผลการดำเนินงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/64 ที่ผ่านมาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง และในช่วงไตรมาส 4/64 จะมีปัจจัยหนุนจากการฉีดวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาที่จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาเสริม อย่างไรก็ตาม ในแง่ของราคาหุ้นยังมีความน่าสนใจเรื่องราคายัง Laggard กว่าหุ้นอื่นในกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่าหลังจากเห็นความชัดเจนของการเปิดประเทศและมีลูกค้าชาวต่างชาติกลับมากขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานกลับมาฟื้นตัวชัดเจน และสะท้อนต่อแนวโน้มของราคาหุ้น ด้านนักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า BDMS เป็นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าต่างชาติเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ามารักษามากขึ้น หลังจากที่หายไปในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีการปิดประเทศ ทำให้แนวโน้มของรายได้ที่มาจากการรักษาลูกค้าชาวต่างชาติจะกลับมามากขึ้น และจะช่วยหนุนต่ออัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นในปี 65 จากการให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติที่ให้มาร์จิ้นที่สูง ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเริ่มส่งมอบวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นามาฉีดให้กับลูกค้าที่จองไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม BDMS ยังเป็นหุ่นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ราคายังค่อนข้าง Laggard กว่ากลุ่ม ทำให้ยังมีคงวามน่าสนใจ และมีอัพไซด์ที่จะสอดคล้องไปกับการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในปี 65