ทั้งนี้ หากการเจรจาดีลดังกล่าวแล้วเสร็จจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 15,000 ตู้ จากปัจจุบันมีทั้งหมดราว 6,000-7,000 ตู้ ซึ่งจะจะกระจายพื้นที่การตั้งตู้ฯ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากที่มีอยู่ในกว่ากว่า 20 จังหวัด นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมทำธุรกิจในโมเดลใหม่ คือการเจรจาเพื่อเป็นผู้ให้บริการติดตั้ง และบริหารระบบตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้กับผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในประเทศไทย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 1/65 เช่นกัน
ขณะที่ล่าสุด SABUY เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บมจ.เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ (TERO) ซึ่ง SABUY จะถือหุ้นในสัดส่วน 50% คาดว่าจะตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.64 เพื่อเริ่มดำเนินธุรกิจร่วมกันทันที โดยจะเริ่มมีรายได้จากโฆษณาครบวงจรทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ในขณะเดียวกันจะมีการจำหน่ายสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางต่างๆ ที่ทั้งสองบริษัทมี นายชูเกียรติ กล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้นับเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของ Digital Media & Marketing จากกลุ่ม TERO เข้ากับ Technology & Payment Platform ของกลุ่ม SABUY เป็นโอกาสในการขยายการเข้าถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการภายใต้เครือสบายได้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การเปิดช่องทางการขายบัตรคอนเสิร์ตในจุดร้านไปรษณีย์เอกชนในเครือ เช่น ชิปป์สไมล์, พลัส เอ็กซ์เพรส และพันธมิตรของ SABUY ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มประชาชน
หรือ การนำตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) และระบบศูนย์อาหารที่รองรับการชำระเงินทุกรูปแบบ และ e-payment ต่างๆ เข้าให้บริการในเทศกาลดนตรี เข้ากับ Media & Sponsorship Package จากทาง TERO ซึ่งนับเป็นการ Synergy ของทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้น ยังได้ต่อยอดจากฐานลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่าย ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ (Customer Experiential Marketing) และก่อให้เกิด Loyalty Program ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยบริษัทมีสมาชิกอยู่ในระบบมากกว่า 30 ล้านราย และทาง TERO มีสมาชิกบนระบบออนไลน์ในมือมากกว่า 80 ล้านราย ความร่วมมือครั้งนี้ยังรวมไปถึงการบริหารจัดการลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนและศิลปินจากกลุ่ม TERO เพื่อจัดทำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม limited edition ที่ทางกลุ่ม SABUY ได้เคยดำเนินการอยู่แล้ว เช่น ผลิตน้ำดื่มลิขสิทธิ์ "โดราเอมอน" กว่า 40 ลาย ออกจำหน่ายผ่านทางช่องทางตู้เวนดิ้ง แมชชีนทั่วประเทศ ซึ่งการบริหารจัดการลิขสิทธิ์เหล่านี้ยังรวมถึงการเป็น Brand Ambassador ของศิลปิน พ่วงกับ Media & Sponsorship ของสินค้าลิขสิทธิ์ทั้งในสื่อต่างๆในเครือ TERO และสื่อ ณ จุดขายในกลุ่ม SABUY อีกดัวย โดยเป็นการกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายของกลุ่มสบายผ่านทางตู้จำหน่ายเครื่องดื่มและสินค้าอัตโนมัติเวนดิ้งพลัส ที่มีครอบคลุม 21 จังหวัดทั่วประเทศ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงยังสามารถใช้ร้านไปรษณีย์เอกชนภายในเครือและพันธมิตรจากสบายเป็น showroom และเป็นจุดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธ์ หรือเป็นจุดรับ/ส่งสินค้าที่มีการสั่งซื้อผ่านทางช่องทาง e-commerce ของทั้ง 2 บริษัท ได้เช่นเดียวกัน ด้านนายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ TERO เปิดเผยว่า บริษัทมีความครอบคลุมสื่อหลากหลายด้าน และจากประสบการณ์ด้านงานบันเทิงที่ยาวนาน จึงเชื่อมั่นว่าจะดูแลและสร้างสื่อโฆษณาให้มีความแข็งแรงและครอบคลุมครบวงจรยิ่งขึ้น อีกทั้งการเสริม media and advertising ภายในเครือเทโร อาทิ รายการทีวี คลื่นวิทยุ การจัดงานแสดงสด ศิลปิน สื่อดิจิทัล และ Entertainment Commerce เข้ากับสื่อ ณ จุดขายของตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้เติมเงินออนไลน์และช่องทางอื่นๆในเครือธุรกิจของ SABUY จะช่วยให้สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้ครบถ้วน และครบวงจร นำไปสู่การสร้างประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับการลงสื่อโฆษณาของกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เป็นคู่ค้าและพันธมิตรของทั้ง 2 ฝ่าย