นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยได้ถอนวาระเสนอต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกจากการพิจารณาของการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีรายงานข่าวระบุว่ากระทรวงคมนาคมมีประเด็นไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุสัมปทาน
รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้ขัดขวาง แต่ความเห็น 4 ประเด็นของกระทรวงคมนาคม ทั้งเรื่องข้อพิพาททางกฎหมายอัตราค่าโดยสาร ผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับ และการดำเนินการตามกฎหมายและมติครม.ให้ครบถ้วน เป็นจุดยืนว่าควรจะต้องดำเนินการให้ครบถ้วน เพราะกรณีนี้เป็นบริการสาธารณะที่มีผลกระทบต่อประชาชน หากในอนาคตมีผู้ร้องเรียนและพบว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายจะเกิดความเสียหาย
"กระทรวงคมนาคมเห็นข้อมูลว่ามีบางเรื่องที่ยังต้องทำให้ครบถ้วนก่อน เช่น เรื่องการดำเนินการตามมติครม. ปี 2561 เรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในปี 2558 ซึ่งเรื่องยังอยู่ที่ ป.ป.ช. และล่าสุดทาง บีทีเอส ได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครอยู่ ควรฟังคำสั่งศาลว่าจะเป็นอย่างไรด้วย เพราะหากกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกต่อไปก็จะเป็นปัญหาไปด้วย" นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ตามมติ ครม.ปี 61 ได้แต่งตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงคมนาคม และ ปลัดกทม. ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปลัดคมนาคมไปหารือถึงประเด็นที่ข้อมูลและการดำเนินการที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไร หากดำเนินการได้ครบถ้วน เรื่องต่อสัมปทานสายสีเขียวก็สามารถดำเนินการได้ โดยเรื่องนี้ กทม.สามารถชี้แจงไปที่ ครม.ได้ ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง 35 คนมีอิสระในการทำงาน มีคุณวุฒิ มีความสามารถในการพิจารณา ส่วนกระทรวงคมนาคมมีความเห็นอย่างไรก็บอกไปตามนั้นแล้ว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุม ครม.เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมามีวาระที่กระทรวงมหาดไทยนำเสนอ ขออนุมัติร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะมีการขยายสัญญาสัมปทานให้ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส อีก 30 ปี จากเดิมสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดในปี 2572 ไปสิ้นสุดในปี 2602 แลกกับการจัดเก็บค่าโดยสารตลอดสายที่ 65 บาท แต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยได้ขอถอนวาระดังกล่าวออกไปก่อน