ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านราย จากปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 2.3 ล้านราย และมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ร้าน จากปัจจุบันมีร้านค้าร่วมให้บริการอยู่กว่า 164,000 ร้าน แต่อย่างไรก็ตามยอมรับว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนต่อเนื่องไปอย่างน้อยอีก 1-2 ปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการขยายกิจการ ด้านนายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทเตรียมขยายการให้บริการไปยัง 3 ธุรกิจใหม่ที่เป็น Non-Food ได้แก่ 1.บริการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน กิจกรรมท่องเที่ยว รถเช่า ประกันภัย (Online Travel Agent) ที่บริษัทตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการในปี 65 ไม่ต่ำกว่า 480,000 รายการ หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและช่วยผู้ประกอบการ SME ไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ตัวแทนในการขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ 2.บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) โดยตั้งเป้าที่จะเจรจาร่วมมือกับผู้ประกอบการร้านค้าไม่ต่ำกว่า 8,000-10,000 ร้านค้า และหวังมีผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านราย เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขายและเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการได้เจอกับลูกค้าโรบินฮู้ดซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและพร้อมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ
และสุดท้ายคือบริการรับ-ส่งของ (Express Service) แบบ on-demand เพื่อรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังขยายตัวแบบก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าที่จะให้บริการแก่ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย และมีจำนวนการขนส่งไม่ต่ำกว่า 4,000 รายการต่อเดือน ขณะที่ปัจจุบันบริษัทให้บริการอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในปี 65 เตรียมขยายการให้บริการไปยัง 3 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพ และมีความต้องการบริการด้านฟู้ดเดลิเวอรีสูง ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของร้านค้า และไรเดอร์ มุ่งพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) ให้ดีขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เน้นสนับสนุนและช่วยเหลือร้านค้าที่ช่วยลูกค้า นอกจากนี้ยังเตรียมผสานพลังความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม SCBX เช่น Auto X, Card X, Data X, SCB Tech X เป็นต้น ในการหาลูกค้า (customer acquisition) พร้อมการนำดาต้ามาต่อยอดด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินอื่น ๆ, การทำโฆษณา, การทำโปรโมชันกับลูกค้า เพื่อประโยชน์สูงสุดของร้านค้า และลูกค้า