(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นหลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวแรง-ส่งออกไทยโตดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 27, 2021 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) หลายตัวได้ปรับขึ้นมาแรง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศออกมาดีกว่าคาด รวมถึงตัวเลขส่งออกของไทยเติบโตได้ดี ทำให้ดัชนีฯน่าจะแกว่ง Sideway up ได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน แต่น้ำหนักไปตามดาวโจนส์ พร้อมแนะติดตามพัฒนาการเปิดประเทศ 1 พ.ย.และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 28 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีการปรับลด QE และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันเดียวกัน

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,625-1,650 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,756.88 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,574.79 จุด เพิ่มขึ้น 8.31 จุด (+0.18%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,235.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด (+0.06%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.78 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 50 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 243.1 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ต.ค.) 1,635.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด (+0.11%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 39.37 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ต.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 84.65 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ต.ค.) อยู่ที่ 8.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.17 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนดอลล์แข็ง
  • 28 ต.ค.จับตา 2 พรรคใหญ่ ล้างไพ่ลุยเลือกตั้ง "บิ๊กป้อม" เรียกประชุมด่วน กก.บห. เคลียร์ปม "ธรรมนัส" "บิ๊กตู่" เก็บอาการปิดปากนิ่ง โฆษกรัฐบาลแจงนายกฯ ถก 6 รมต.แค่เรื่องงาน ยุ่งการเมืองไม่ได้ "วิรัช" แหยงเตือนเปลี่ยนแล้ววุ่นไม่ควรทำ "สามมิตร" นำร่องเซ็นลาออกโชว์ "ผู้กองนัส" แอ่นอกไม่ตอบโต้ลั่นแล้วแต่ "ลุงป้อม" เพื่อไทยยกเครื่องเฟ้นหัวหน้าพรรคใหม่แทน "สมพงษ์" ชื่อ "ชลน่าน" มาแรง "อนุสรณ์" สะกิดนักร้องอย่าเลือกปฏิบัติยื่นยุบ พปชร.ปล่อย "ประยุทธ์" ครอบงำ "
  • สธ.เตรียมความพร้อม 5 ด้าน รับ 1 พ.ย. "เฝ้าระวัง-ตรวจเชื้อ-COVID Free Setting-ปรับรูปแบบรักษา-เวชภัณฑ์" ไทยเจอโควิดกลายพันธุ์ "อัลฟาพลัส" 18 ราย ระบาดในกัมพูชา เร่งเพาะเชื้อตรวจหลบภูมิวัคซีน ส่วน "เดลตาพลัส" ยังไม่เจอ AY.4.2 "สาธิต" ลั่นไม่มีนัยสำคัญให้ทบทวนเปิดประเทศ นายแบงก์หนุนเปิดเมืองฟื้นท่องเที่ยวได้ จ่อปรับเพิ่มจีดีพีปี 65 โตเกิน 3%
  • ส่งออกก.ย.64 มีมูลค่า 23,036 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 17.1% โตต่อเนื่อง 7 เดือนติด รวม 9 เดือน มูลค่า 199,997.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 15.5% เผยสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรมขยายตัวได้ต่อเนื่อง ด้านตลาดก็โตแรงไม่แพ้กัน
  • "คณิศ" แจงยิบ "ซีพี" ขอเลื่อนจ่ายหมื่นล้าน ค่าสิทธิบริหารแอร์พอร์ตลิงก์ อ้างผลกระทบโควิดตั้งคณะเจรจาแก้สัญญาใน 3 เดือน หาข้อสรุปผ่อนจ่ายพร้อมดอกเบี้ย "เอกชน" เล็งลงทุน 3 พันล้านเพิ่มขบวนรถไฟฟ้า ปรับสถานี ชี้ปมขอเงินกู้แบงก์ยังมีเวลาถึง พ.ย.ปีหน้าเผยส่งมอบพื้นที่แล้ว 98% คาดออกเอ็นทีพี มี.ค.ปีหน้า
  • สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย คาดจีดีพีปี'65โต 3% จับตา ธปท.ขยับดอกเบี้ย ด้านซีไอเอ็มบีไทยชี้เงินเฟ้อสูงกดจีดีพีปี'65 เหลือ 2% แนะตรึงดอกเบี้ยจนกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว
  • "หอการค้า" ชี้โควิดทุบดัชนีเชื่อมั่นโมเดิร์นเทรดทรุด 4 ไตรมาสติด ลุ้นเปิดประเทศดูดต่างชาติ หนุนเศรษฐกิจไตรมาส 4 ฟื้น หวังอานิสงส์คนละครึ่งกระตุ้นจับจ่ายคึกคัก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • HMPRO (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 16.5 บาท ผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้วตั้งแต่ Q3/64 และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไรตั้งแต่ Q4/64 สะท้อนผ่าน SSSG ที่เริ่มกลับมาเป็นบวก 10-20% ตั้งแต่เดือน ก.ย. เทียบกับ Q3/64 ติดลบ 10-15% จากการเปิดเมือง (70% ของรายได้มาจากกรุงเทพและหัวเมืองท่องเที่ยว)
  • SCGP (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 74 บาท โดย CAGR 64-66 จะยังเติบโตกว่าปีละ 20% ราคาหุ้น 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลด 10% สะท้อน Q3/64 ที่อ่อนตัวไปแล้ว โดยรายงานกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท +33% YoY, -21% QoQ และมี Core profit ที่ 1.5 พันล้านบาท +12% YoY, -31% QoQ ผลล็อกดาวน์ และต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ประเมินแนวโน้มกำไร Q4/64 น่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ที่ระดับ 2 พันล้านบาทหลังโควิดหลายประเทศดีขึ้น พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 64 และ 65 ลง -13% และ -6% เหลือ 8.2 พันล้านบาท และ 1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ โดยปรับ EBITDA Margin จาก 17% เหลือ 16% จากต้นทุนพลังงานถ่านหินเพิ่มขึ้น
  • NEX (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร"ราคาเฉลี่ย IAA Consensus 13.40 บาท แนวโน้มผลงาน H2/64 จะพลิกเป็นกำไร รับปัจจัยหนุนจากทยอยส่งมอบรถ e-bused จำนวน 120 คัน ส่งมอบล็อตแรกไปแล้วในเดือน ก.ย. 80 คัน และใน Q4/64 มีแผนจะส่งมอบอีก 400 คัน พร้อมกับตั้งเป้าส่งมอบรถในปีหน้า 3,000 คัน และยังมีโอกาสรับงานเพิ่มขึ้นจากแผนผลักดันเทคโนโลยีรถ EV ภาครัฐ โดยมีหน่วยงานที่สนใจเช่น บขส. ขสมก.รวมถึงลูกค้าเอกชนเช่นตามนิคมอุตสาหกรรม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ