นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้เพิ่มอีกจากเดิม 40% เป็น 50% เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีจำนวนผู้ป่วย และมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งยังมีรายได้จากการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19
ขณะที่บริการทางการแพทย์ด้านต่างๆ ในโรงพยาบาล อาทิ ศูนย์ฉุกเฉิน,ศูนย์กุมารเวช,ศูนย์สูติ-นรีเวช ศูนย์ หู ตา คอ จมูก ศูนย์ทันตกรรม ยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง และสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีขีดความสามารถในการรองรับการเข้ามาใช้บริการของคนไข้ได้เพิ่มมากขึ้น
"จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลทำให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์ทั้งจากจำนวนผู้ป่วยและผู้เข้ารับการรักษา รวมถึงการตรวจหาเชื้อ การฉีดวัคซีน ประกอบกับการให้บริการทางการแพทย์ในด้านต่าง ๆ ยังสามารถเติบโตในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จึงเป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมธุรกิจทั้งปีของ EKH ที่จะเติบโตอย่างโดดเด่น บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้ใหม่อีกครั้ง จากเดิมคาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% เป็น 50% ซึ่งบริษัทฯยังคงเดินหน้าลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและขยายธุรกิจเดิม เพื่อสร้างรายได้และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต" นายแพทย์อำนาจ กล่าว
ทั้งนี้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท 75,000,000 บาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 150,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จากเดิม 300,000,000 บาท เป็น 375,000,000 บาท จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท รุ่นที่ 1 (EKH-W1) 150,000,000 หน่วย ซึ่งจะจัดสรรโดยไม่คิดมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ อายุไม่เกิน 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ราคาหุ้นละ 6.30 บาท วันที่ 3 พ.ย.64 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับการจัดสรรวอแรนต์ และวันที่ 4 พ.ย.64 เป็นวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น
สำหรับการออกวอร์แรนต์ดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินสำหรับการลงทุนในอนาคต เช่น การลงทุนในโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มหรือ Synergy ให้กับบริษัท