ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 181.84 จุด หลังผันผวนตลอดสัปดาห์

           ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันล่าสุดพุ่งขึ้นในแดนบวก เนื่องจากมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในช่วงวัน Black Friday (วันเริ่มต้นช็อปปิ้งเทศกาลคริสต์มาส) ขณะที่ตลาดรอดูว่าผู้ค้าปลีกจะเปิดเผยสถานการณ์เช่นไร ในช่วงฤดูกาลช็อปปิ้งที่ยากลำบาก
          การซื้อขายตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเร็วกว่าปกติเนื่องในวันหยุดนั้นมีทิศทางพุ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการบวกขึ้นในวันศุกร์นี้ ไม่เพียงพอที่จะสกัดกั้นการลดลงของดัชนีตลอดทั้งสัปดาห์ได้ โดยผู้เล่นหลักๆในตลาดต่างไปพักผ่อน รวมทั้งมูลค่าการซื้อขายก็เบาบาง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในช่วงวันหยุดเช่นนี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 181.84 จุด หรือ 1.42% ไปปิดที่ระดับ 12,980.88 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวกขึ้น 23.93 จุด หรือ 1.69% แตะระดับ 1,440.70 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดวิ่งขึ้น 34.45 จุด หรือ 1.34% แตะระดับ 2,596.60 จุด 
          ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาดาวโจนส์รูดลง  195.91 จุด หรือ 1.49%  ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 18.04 จุด หรือ 1.24% ส่วนดัชนี Nasdaq ตลอดสัปดาห์หายไป 40.64 จุด หรือ 1.54%                   
          ด้านแจ็ค เอบลิน กล่าวว่า "ขณะที่เราเฉลิมฉลองการพุ่งขึ้นของดาวโจนส์ แต่มูลค่าการซื้อขายก็เบาบางมาก และเราต้องรอจนกระทั่งถึงสัปดาห์หน้า เพื่อที่จะทราบทิศทางของตลาดอย่างแท้จริง"  
          เนื่องจากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆเปิดเผยในวันนี้ ประกอบกับไม่มีข่าวบรรษัทประกอบการมากนัก นักลงทุนบางรายจึงหาข้อมูลการค้าที่เป็นไปในแง่บวก และหาสัญญาณสุขภาพทางเศรษฐกิจที่สดใสใดๆ โดยเฉพาะในช่วงที่วัน Black Friday มาถึง        
          ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินซึ่งรูดลงมาตลอดสัปดาห์ สามารถขึ้นไปยืนในแดนบวกได้ในวันศุกร์ โดยความวิตกมาจากการที่เฟรดดี้ แม็ค และแฟนนี่ เม  ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้จำนองที่มีรัฐบาลสนับสนุน เปิดเผยผลขาดทุนรายไตรมาสมูลค่ามหาศาลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งมูดี้ส์ ก็ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อเชื่อถือของหนี้สินบางรายการของ เฟรดดี้ แม็คด้วย 
          หุ้น เฟรดดี้ แม็ค บวกขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 26.47 ดอลลาร์ และ แฟนนี่ เม วิ่งขึ้น 2.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 32.20 ดอลลาร์