นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สีเดลต้า (DPAINT) กล่าวว่า ราคาหุ้นของบริษัทในการเข้าซื้อขายซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกในช่วงเช้าวันนี้ที่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นไป 200% มองว่ามาจากความมั่นใจของนักลงทุนในทิศทางอนาคตของบริษัทที่จะสร้างการเติบโตของผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจที่เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น หลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3/64 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง และเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆลงไปค่อนข้างมาก ทำให้กิจกรรมในประเทศต่างๆกลับมา ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นกลับมา
ขณะเดียวกันภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับปัจจัยบวกเข้ามาหลังโควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้โครงการต่างๆกลับมาก่อสร้างได้ และตลาดซ่อมแซมและปรับปรุงที่อยู่อาศัยเริ่มกลับมาฟื้นอีกครั้ง เริ่มมีการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านกันมากขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้คนสามารถซื้อที่อยุ่อาศัยได้มากขึ้น และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในการกลับมาพัฒนาโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนต่อตลาดสีทาบ้านและอาคารให้ฟื้นตัวกลับมาเพิ่มขึ้น ส่งผลบวกตอทิศทางของการเติบโตของบริษัทในระยะต่อไป
"ขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ไว้วางใจ ส่วนตัวมองว่าราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น เป็นเพราะทุกคนมองเห็นอนาคตของบริษัท จากผลประกอบการที่จะสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง และปัจจัยหนุนการฟื้นตัวกลับมาของตลาด หลังจากโควิดคลี่คลายลงมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจกลับมา และปัจจัยหนุนต่อภาคอสังหาฯที่ส่งผลบวกต่อบริษัท" นายรณฤทธิ์ กล่าว
สำหรับเป้าหมายของบริษัทในการสร้างการเติบโตนั้นจะเดินหน้ารุกและขยายตลาดมากขึ้น เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (Market share) ให้สูงขึ้นกว่าปัจจุบันที่อยู่ที่ระดับ 3-4% ซึ่งยังอยู่ในระดับ Top 5 และ Top 6 ของตลาด ซึ่งเชื่อมั่นว่าหลังจากเข้าตลาดในครั้งนี้บริษัทจะสามารถก้าวขึ้นและรักษาระดับ Top 5 ได้อย่างแน่นอน พร้อมกับตั้งเป้าขึ้นเป็น Top 3 ของตลาด โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการเพิ่ม Market Share ในการไต่ระดับขึ้นสู่ Top 3 ในช่วง 5-10 ปี โดยที่ปัจจุบันผู้นำตลาดอันดับ 1 มี Market share อยู่ที่ 48%
โดยที่กลยุทธ์การเพิ่ม Market share ของบริษัทจะเดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยที่ยังคงเน้นการขายผ่านช่องทางร้านค้า Traditional และ Modern Trade ในสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ 45% : 45% แต่จะขยายพื้นที่ในการขายผ่านทั้ง 2 ช่องทางให้มีการครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่าย รวมถึงการนำเงินไปใช้ในการเพิ่มเครื่องผสมสีเพิ่มเป็น 440 เครื่อง จากปัจจุบันที่มี 380 เครื่อง และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 880 เครื่อง ภายใน 3 ปี เพื่อกระจายไปตามสาขาต่างๆ และในส่วนลูกค้าโครงการที่บริษัทยังคงเน้นและหาโอกาสในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเข้ามา จากการที่หลังโควิด-19 มองว่าจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆออกมามากขึ้น ทำให้บริษัทยังคงขยายกลุ่มลูกค้าโครงการ โดยที่จะมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการอยู่ที่ 10%
นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงิน DPAINT กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ของบริษัทในปี 64 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ที่เติบโต 20-30% จากปีก่อน หลังจากที่โควิด-19 ในประเทศมีสถานการณ์ดีขึ้น และเริ่มกลับมาเปิดเมือง ส่งผลให้ยอดขายสีเริ่มเห็นการกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ชะลอตัวไปในช่วงไตรมาส 3/64 และมองว่ายอดขายจะเริ่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ตลาดซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านเริ่มกลับมาหลังจากที่หยุดไป ส่งผลหนุนต่อรายได้ของบริษัท ซึ่งคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 จะเห็นการฟื้นตัวกลับในระดับที่ดี
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่ ให้มีความทันสมัยและมีระบบอัตโนมัติ ใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องผสมสี จำนวน 440 เครื่อง จากครึ่งปีแรกปี 64 มี 379 เครื่อง เพื่อเพิ่มจำนวนร้านค้าปลีกและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนในการทำระบบ ERP เงินทุนสร้างห้อง LAB และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงนำไปชำระคืนหนี้บางส่วน ทำให้อัตราส่วนหนี่สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทลดลงมาเหลือ 0.5-0.8 เท่า จากครึ่งปีแรกที่ 2.23 เท่า