ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารถ่วงฟุตซี่ปิดร่วง 55.5 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 3, 2007 07:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มหลักที่กดดันดัชนีมากที่สุด จากความกังวลเรื่องวิกฤติซับ-ไพรม์ที่ยังไม่จางหาย ขณะที่อานิสงส์จากตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วยให้ดัชนีกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยบดบังความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจได้บ้าง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 55.5 จุด ปิดที่ 6,530.6 จุด หลังจากที่เคลื่อนตัวลงถึงระดับ 6,483.4 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับวิกฤติซับไพรม์ หลังจากที่โบรกเกอร์รายหนึ่งรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ซิตี้กรุ๊ปอาจจำต้องปรับลดเงินปันผลเพื่อไม่ให้บริษัทประสบภาวะขาดทุน
หุ้นบาร์เคลย์สร่วงลงหนักสุดที่ 34 เพนซ์ หลังจากที่ แพนมัวร์ กอร์ดอน และ โกลด์แมน แซคส์ ออกมาระบุว่า บาร์เคลย์สเป็นธนาคารหนึ่งของอังกฤษที่ประสบปัญหามากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวลือว่า บาร์เคลย์สต้องไปขอกู้เงินจากธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แต่ธนาคารกลางก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยชี้แจงว่าไม่มีธนาคารใดมาขอรับความช่วยเหลือ รวมถึงบรรดานักวิเคราะห์ก็เชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่บาร์เคลย์สจะไปขอความช่วยเหลือจาก BOE ในเมื่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) หรือธนาคารกลางสหรัฐ (FED) พร้อมยื่นมือช่วยเหลือ ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบาร์เคลย์ส แคปิตอล ยังคงสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนจำนวนมาก
หุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อค ขยับลง 0.7 เพนซ์ หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 23 เพนซ์ หุ้นอัลไลแอนซ์ แอนด์ เลสเตอร์ ปรับลง 21-1/2 หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 13-1/2 และหุ้นธนาคาร HBOS ปิดลบ 19 เพนซ์
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 166,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เกือบสองเท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ