โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตั้งอยู่ที่จังหวัด ยาลาย ในประเทศเวียดนาม มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบราคารับซื้อ Feed-in Tariff ในอัตรา 0.085 ดอลล่าร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 20 ปี นับจากวันที่เริ่ม COD
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นสองโครงการในจำนวนรวม 5 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 471 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการบนบก (Onshore) มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 300 เมกะวัตต์และในทะเล มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 171 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่บริษัทจะทยอยพัฒนาในระหว่างปี 64-66 โดยโครงการวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ที่เริ่ม COD บริษัทฯจะทยอยรับรู้รายได้จากการดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนพ.ย.64 ซึ่งจะช่วยผลักดันการเพิ่มสัดส่วนรายได้ และจะสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
"โครงการวินด์ฟาร์มฯ ที่ประเทศเวียดนาม ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทประสบความสำเร็จ และสามารถให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่สูงถึง 18-19% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายสร้างมูลค่าในอนาคต อีกทั้งยังมีแผนรุกตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ตลอดจนการเปิดรับพันธมิตรทางการลงทุน เพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ" นายจอมทรัพย์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังเชื่อว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 9,000-10,000 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้น ทั้งจากการขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์จากโรงไฟฟ้าเดิม และโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งปัจจุบัน SUPER มีพอร์ตโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าแล้วนั้น มีจำนวนมากกว่า 131 โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,586.32 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตในประเทศ 699.6 เมกะวัตต์ และในต่างประเทศ 886.72 เมกะวัตต์