SUSCO คาด Q4/64 ดีรับเปิดปท.-คลายล็อกดาวน์,ลุยเพิ่ม-ปรับปั๊มดึงคนใช้บริการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 1, 2021 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซัสโก้ (SUSCO) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3/64 เนื่องจากจะมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พ.ย.นี้จะช่วยหนุนการเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้กลับมาคึกคัก ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้น้ำมัน แม้ราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับสูง รวมถึงในช่วงสิ้นปีนี้ก็จะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวด้วย

ทั้งนี้ SUSCO ยังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 7 แห่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยวางงบลงทุนรวมไว้ราว 100 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้สิ้นปี 64 จะมีสถานีบริการน้ำมันชองซัสโก้เพิ่มเป็น 255 แห่ง

"เราเชื่อว่าหากเหตุการณ์ยังคงปกติ เดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้จะเติบโตได้ดี จากความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการเปิดประเทศในช่วงเดือนหน้า ซึ่งบริษัทก็ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน ฝึกอบรมพนักงาน เพิ่มความปลอดภัยให่แก่ผู้บริโภคและพนักงาน ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สถานีบริการน้ำมันซัสโก้"นายชัยฤทธิ์ กล่าว

นอกจากนี้ การให้บริการน้ำมันท่าอากาศยาน (JET) คาดว่าจะกลับมาดีขึ้นด้วย หลังจากช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะเดือนส.ค.64 ที่มีการล็อกดาวน์ห้ามสายการบินทำการบิน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ก็มองว่าจะมีสายบินในต่างประเทศเข้ามา ซึ่งก็จะมีลูกค้าของบริษัทด้วย คาดว่าน่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวเช่นกัน

ส่วนธุรกิจ Non-oil ก็คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาเปิดสาขาของแบรนด์ร้านอาหารดังเช่น KFC, สตาร์บัค เป็นต้น ที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการเช่ามากขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากรีเทลให้มากขึ้น ผ่านการหาพาสเนอร์ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ เข้ามามากขึ้น ซึ่งนอกจากจะได้ผลตอบแทนจากร้านค้าแล้ว ยังช่วยกระตุ้นยอดขายน้ำมันที่สถานีบริการด้วย

สำหรับภาพรวมปีนี้ บริษัทยอมรับว่าปีนี้อาจจะไม่ได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ไม่ถึงกับแย่มาก โดยปี 63 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 16,777.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 217.66 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งแรกของปี 64 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 9,438 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 160.79 ล้านบาท

นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 65 เบื้องต้นบริษัทยังคงเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และขยายร้านค้า-ร้านอาหารในสถานีฯให้มากขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัทมีแนวคิดจะเปลี่ยนพื้นที่สถานีบริการน้ำมันไปสู่การเป็นพื้นที่ร้านค้าหรือเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ที่จะมีด้วยกันหลายสิ่งในพื้นที่เดียวกัน เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานในอนาคตด้วยการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ