ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,613.78 จุด ลดลง 9.65 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 69,806.13 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,632.73 จุด และระดับต่ำสุด 1,611.39 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 444 หลักทรัพย์ ลดลง 1,300 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 475 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักฐานจากแรงขายหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงไปมาก โดยเฉพาะถ่านหิน และรับแรงขายจากหุ้นที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ด้วย อย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ช่วงระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบสลับกัน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นตอบรับผลการเลือกตั้ง ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนติดลบเล็กน้อย ด้านตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกราว 1% จากการเล่นเก็งงบฯเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักคือการติดตามผลการประชุมเฟด, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และผลการเปิดประเทศ 1 พ.ย.จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากหรือน้อยแค่ไหน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ด้วย อีกทั้งให้รอติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้หลังพักฐานวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625-1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,910.68 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,076.89 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,050.39 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,883.81 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,781.92 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง