ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,611.92 จุด ลดลง 5.97 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 84,727.33 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลง จากการเทขายทำกำไร โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,623.08 จุด และระดับต่ำสุด 1,607.72 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 397 หลักทรัพย์ ลดลง 1,403 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 445 หลักทรัพย์
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงบ่ายได้มีการปรับตัวลง จากการเทขายทำกำไรของหุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่มีการปรับตัวขึ้นไปในช่วงก่อนหน้า เนื่องด้วยในระยะถัดไปยังมีปัจจัยที่รอกดดันอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายหลังจากการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับระหว่างนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการเปิดเฮียริ่งการปรับเกณฑ์ Cash Balance ในช่วงวันที่ 1-12 พ.ย.นี้ ทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็ก เพื่อรอดูความชัดเจน
อีกทั้งนักลงทุนก็รอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วย จึงมีการขายทำกำไรออกมาก่อน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.64) นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะรีบาวด์ได้ หลังปรับตัวลงในวันนี้ แต่การรีบาวด์ก็ยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องด้วยยังมีปัจจัยกดดันรออยู่ จากนักลงทุนยังรอดูจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังเปิดประเทศ
ให้แนวรับ 1,590-600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 11,450.55 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,192.28 ล้านบาท ปิดที่ 3.74 บาท ลดลง 0.34 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,351.92 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,169.47 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 0.40 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,377.49 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง