นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลท.ควรรับปรุงภาพรวมของมาตรการและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ทั้งหมดให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย ไม่ใช่เพียงมาตรการกำกับการซื้อขาย เนื่องจากอุตสาหกรรมตลาดทุนเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก โดยขณะนี้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 7 หมื่นล้านบาท/วันแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น การวัดระดับ P/E ควรเมีการปรับปลี่ยน เนื่องจาก P/E ตลาดในปัจจุบันอยู่ที่ 20 เท่า การซื้อขายหุ้นที่ระดับ P/E 40 เท่าถือว่าเป็นเรื่องปกติ และส่วนใหญ่การซื้อขายหุ้นในระดับ P/E ดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่หุ้นปั่นเสมอไป ส่วนใหญ่มองเป็นหุ้น Growth Stock ที่มีโอกาสการเติบโตสูงในอนาคต
"การปรับมาตรการครั้งนี้มองว่าก็มีประโยชน์อยู่บางส่วน แต่มองว่าการจะปรับมาตรการต่างๆต้องปรับให้เหมาะสมกับปัจจุบันที่ภาพรวมตลาดเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องของมูลค่าการซื้อขายที่เปลี่ยนไป มุมมองของหุ้นที่เปลี่ยนไปด้วย สำหรับนักวิเคราะห์เองก็ไม่แนะนำหุ้นปั่นอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นนักลงทุนที่ลงทุนเองทั้งนั้น"นายมงคล กล่าว
ทั้งนี้ มองว่าการตัดสินใจในการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยง ควรจะให้นักลงทุนเป็นผู้ตัดสินใจในการลงทุนด้วยตนเอง ถึงบางครั้งแม้ว่าหุ้นตัวนั้น ๆ จะมีความเสี่ยงแต่เมื่ออยากเสี่ยงก็เป็นการตัดสินใจของนักลงทุนเอง ขณะที่ ตลท.มีหน้าที่เพียงเป็นการเตือน และให้ข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนแก่นักลงทุนเท่านั้น "ปัจจุบันมาตรการต่างๆที่มีถือว่าเพียงพอที่จะสามารถดูแลระบบได้ แต่จะไม่สามารถดูแลได้ก็คือในส่วนของราคาหุ้นมากกว่า ซึ่งราคาหุ้นที่ไม่เป็นไปตามปัจจัยพื้นฐาน แต่เมื่อนักลงทุนพอใจและอยากลงไปเล่นในเกมส์นั้นก็อยู่ที่นักลงทุนจะตัดสิน หน้าที่ของ ตลท. ก็ออกมาเตือนแค่มุมมองความเสี่ยงก็เพียงพอแล้ว"นายกิจพณ กล่าว