(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 51.70 จุดหลังเฟดเผยรายงานประชุม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 21, 2007 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ตีความว่ารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนอง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 51.70 จุด หรือ 0.40% แตะระดับ 13,010.14 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 6.43 จุด หรือ 0.45% แตะระดับ 1,439.70 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 3.43 จุด หรือ 0.13% แตะระดับ 2,596.81 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.87 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 17 ต่อ 16 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.64 พันล้านหุ้น
เมื่อคืนนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 30-31 ต.ค. โดยระบุว่า "การที่คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 นั้น เป็นการตัดสินใจที่ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในปีหน้า อีกทั้งคาดว่าอัตราจ้างงานจะเพิ่มขึ้นและตัวเลขเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในระดับปานกลาง"
นายโจว ซันเดอร์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัทเชฟเฟอร์ อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "รายงานการประชุมครั้งล่าสุดทำให้นักลงทุนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 11 ธ.ค.นี้"
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดปล่อยกู้จำนอง เมื่อบริษัทเฟรดดี แมค เปิดเผยตัวเลขขาดทุนรายไตรมาส 2 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า บริษัทแฟนนี เม ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐนั้น จะมีตัวเลขขาดทุนมูลค่ามหาศาลด้วย
แฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยแฟนนี เม เป็น สมาคมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อศัยแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ ขณะที่เฟรดดี แมค ถูกจัดตั้งขึ้นโดยสภาคองเกรส และมีหน้าที่เพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงิน ซึ่งปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน
"นอกจากนี้ การที่นักวิเคราะห์ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ได้จุดปะทุให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานะของคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลอาจย่ำแย่จนถึงขั้นยื่นขอล้มละลาย แม้บริษัทได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวในภายหลังก็ตาม ซึ่งข่าวเหล่านี้ได้ฉุดหุ้นคันทรีไวด์ดิ่งลง 27%" นายซันเดอร์แมนกล่าว
ด้านนายปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากบริษัทเอวาลอน พาร์ทเนอร์ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "ในขณะที่ตลาดเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางนั้น จู่ๆก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเฟดอาจจะจัดประชุมด่วนเพื่อหารือเรื่องปัญหาในตลาดสินเชื่อและอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก"
ทั้งนี้ หุ้นเฟรดดี แมค ดิ่งลง 28.7% หุ้นแฟนนี เม ร่วงลง 24.8% ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันทะยานขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.4% และหุ้นเชฟรอนดีดขึ้น3.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ