นายปฐมภพ สุวรรณศิริ รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า (THCOM) เปิดเผยว่า บริษัทได้เช่าแบนด์วิธดาวเทียมไทยคม 4 และดาวเทียมไทยคม 6 บางส่วน จากบมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ที่เข้ามาบริหาร หลังจากที่สิ้นสุดสัญญาสัปมทานเมื่อวันที่ 10 ก.ย.64 เพื่อบริษัทจะให้บริการแก่ลูกค้าได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในส่วนลูกค้าหน่วยงานราชการจะย้ายออกไปทำสัญญากับ NT นอกจากนี้ KDDI ลูกค้าญี่ปุ่นได้เซ็นสัญญาต่ออีก 1 ปีในการให้บริการดาวเทียมอินเตอร์เน็ต ทำให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่องในไตรมาส 4/64
ขณะเดียวกัน บริษัทก็มีแผนจะส่งดาวเทียมดวงใหม่ แต่เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ได้เลื่อนการประมูลสิทธิวงโคจรของไทยออกไปอาจเป็นปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ซึ่งจะมีการคัดเลือกคณะกรรมการ กสทช.ชุดใหม่ได้เร็วๆนี้ อย่างไรก็ดีทางบริษัทมีแผนสำรองที่จะจับมือกับพันธมิตรเพื่อใช้วงโคจรที่ไม่ใช่ของไทย เพราะอย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นลูกค้าต่างประเทศ ฉะนั้นจึงสามารถใช้วงโคจรที่ใดก็ได้ โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ให้บริการดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ที่จะให้บริการในไทย โดยจะดำเนินการคู่ขนานกันไป
นายปฐมภพ ยังกล่าวว่า ความต้องการใช้ดาวเทียมที่ใช้กับพาหนะเคลื่อนที่มีต่อเนื่องได้แก่ เครื่องบิน รถ เรือ โดยปัจจุบันก็ให้บริการอินเตอร์เน็ตบนเรือ หรือ NAVA ซึ่งมีลูกค้ากว่า 110 ลำ และมีรายได้ต่อลำ (ARPU) ค่อนข้างสูง ในระยะกลางและระยะยาวจะเพิ่มการให้บริการอินเตอร์เน็ตบนเครื่องบิน โดยระหว่างนี้รอให้สายการบินฟื้นตัวก่อน นอกจากนี้ ยังมีความต้องการอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล ดาวเทียมเพื่อการเกษตร ดาวเทียมเพื่อความมั่นคง การประกันภัย รวมถึง Data Analytic ซึ่งจะทำรายได้ในระยะกลางและระยะยาวได้
ปัจจุบัน บริษัทมีดาวเทียมของตัวเอง 2 ดวงคือไทยคม 7 และไทยคม 8 ส่วนเงินสด ณ สิ้นเดือน ก.ย.64 มีจำนวน 7,050 ล้านบาท และได้จ่ายค่าเช่าแบนด์วิธในไทยคม 4 และ ไทยคม 6 ทำให้เงินสด ณ เดือนต.ค.ลดลงเหลือ 4,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ในปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย โดยในงวด 9 เดือนปี 64 มีรายได้ 2,509 ล้านบาท ลดลง 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน EBITDA Margin อยู่ที่ 34% ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่ 35% และมีกำไรสุทธิ 216 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยไตรมาส 3/64 พลิกกลับมามีกำไร