นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทประสบความสำเร็จในการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าเพื่อช่วยสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม ทำให้พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 8,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับปี 63 ทำให้มีรายได้จากดอกเบี้ยรวมอยู่ที่ 1,072.4 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้จากพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันยังคงทำสัดส่วนรายได้หลักคิดเป็น 93% ซึ่งมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อและผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ) ทำสัดส่วนสูงสุด คิดเป็น 61.8% และ 29.7% ตามลำดับ ขณะที่รายได้จากสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอยู่ที่ 7% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 222.0 ล้านบาท จาก 213.0 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปี 63
ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวมาจากขีดความสามารถการให้บริการที่ดีขึ้นจากการให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น โดยในช่วงไตรมาส 3/64 (ก.ค.-ก.ย.) บริษัทลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ วันที่ 30 ก.ย.64 มีสาขารวม 489 สาขา จากเมื่อครึ่งปีแรกที่มีสาขา 451 สาขา ประกอบกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเพิ่มขึ้น ทำให้พอร์ตสินเชื่อดังกล่าวขยายตัว 42.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่วยสนับสนุนรายได้จากดอกเบี้ยรวมในไตรมาสนี้เป็น 1,072.4 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อโดยเฉลี่ย (Yield on Loan) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 18.3% ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ทำได้ 113.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.4% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/63
"ความสำเร็จของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 ที่มีอัตราเติบโตได้โดดเด่น มาจากการปรับตัวให้ทันไตรมาสนี้ลดลง หลังจากลูกหนี้กับสถานการณ์เพื่อดูแลคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ที่ดีทำให้การตั้งสำรองส่วนเพิ่ม (Management Overlay) ในไตรมาสนี้ลดลง หลังจากลูกหนี้มีความสามารถการชำระหนี้ที่ดีขึ้น หลังจากเราให้ความช่วยเหลือปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 รวมถึงยังบรรลุแผนขยายพอร์ตสินเชื่อได้ตามเป้าหมายช่วยผลักดันรายได้ปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย" นางสุธารทิพย์ กล่าว
บริษัทฯ มั่นใจผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโต โดยการมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้แข็งแกร่งมากขึ้น หลังลูกค้าต้องการเงินทุน เพื่อนำไปประกอบอาชีพรับกับจังหวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และจะควบคุมคุณภาพพอร์ตสินเชื่อโดยรวมให้อยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่มีความรัดกุม ทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะควบคุมหนี้ NPLs ลดลงเหลือ 3.5% จากเดิมอยู่ที่ 3.7% ของพอร์ตสินเชื่อโดยรวม