ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดร่วงลงในวันนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นในเอเชียร่วงลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากปัญหาตลาดสินเชื่อของสหรัฐ
นักลงทุนยังคงมีท่าทีวิตกกังวลและต่างพากันเทขายหุ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐได้ออกมาเตือนว่าอาจมีการขาดทุนเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 เนื่องจากได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) ในสหรัฐ
ทั้งนี้ การเทขายหุ้นอย่างหนักในวันนี้ส่งผลให้ดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วลง 88.55 จุด หรือ 2.5% ปิดที่ 3,511.12 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,483.18 และ 3,532.74 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.17 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.74 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
นายชาน ไหว่ ฉี หัวหน้านักวิจัยจากฟิลิป ซิเคียวริตี้ส์กล่าวว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์อาจร่วงลงอีก เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นสิงคโปร์ซบเซา อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะวิกฤตตลาดสินเชื่อของสหรัฐจะสิ้นสุดลงแต่อย่างใด
"แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นสิงคโปร์ยังคงแข็งแกร่ง แต่ปัจจัยภายนอกก็ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น เรามองว่าขณะนี้ตลาดเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของตลาดในต่างประเทศ" ชานกล่าว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การร่วงลงของดัชนีในช่วงนี้ยังไม่บ่งชี้ให้เห็นว่าดัชนีจะเข้าสู่ภาวะปรับฐานขึ้น
อย่างไรก็ดีนายเค อาจิธ นักวิเคราะห์จากยูโอบี เคย์เฮียนกล่าวว่า จากวิเคราะห์ทางเทคนิค ทำให้เชื่อว่าดัชนีสเตรทไทม์กำลังเข้าสู่ระดับที่มีการเทขายมากเกินไป นั่นหมายความว่าดัชนีควรที่จะดีดตัวขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากดัชนีได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ช่วงปลายสุดของการปรับฐานแล้ว
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารพาณิชย์ต่างๆอาจได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์สหรัฐ
หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทรุดลง 70 เซนต์ ขณะที่หุ้นยูโอบี ร่วงลง 50 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ลดลง 15 เซนต์
ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์ไม่อนุญาตให้ผู้ซื้อบ้านผ่อนผันการจ่ายเงินขั้นต้นสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสาเหตุของการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร
โดยหุ้นแคปิตอล แลนด์ ทรุดลง 70 เซนต์ ขณะที่หุ้นเค็พเพล ลดลง 15 เซนต์
ในหุ้นกลุ่มบลูชิพ หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ทรุดลง 70 เซนต์ หุ้นเค็พเพล คอร์ป ร่วงลง 50 เซนต์ ขณะที่หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ขยับลง 2 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--