ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,627.60 จุด ลดลง 4.09 จุด (-0.25%) มูลค่าการซื้อขายราว 39,330 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,630.09 จุด และระดับต่ำสุด 1,625.13 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่จะติดลบ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง และเกาหลีใต้ติดลบราว 1% ขณะที่รอบบ้านเราติดลบราว 0.5-0.7% ถือว่าตลาดหุ้นไทยติดลบน้อยกว่าภูมิภาค
การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นผลจากความกังวลเงินเฟ้อของสหรัฐฯกดดันทั่วโลก โดยวานนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค.ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือน ก.ย.ยังอยู่ในระดับสูง และคืนนี้ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็น่าจะเร่งตัวเช่นกัน ซึ่งจะกดดัน Sentiment การลงทุน ตลาดหุ้นจึงยังไปได้ไม่ไกล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)คาดการณ์อุปทานน้ำมันจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งการที่ทางสหรัฐฯจะพยายามปล่อยน้ำมันก็อาจไม่เกิดขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราซึมตามต่างประเทศแต่ไม่ได้ลงมาก แนะรอย่อตัวค่อยซื้อ แม้งบฯไตรมาส 3/64 ไม่ดีแต่ถือเป็น Bottom แล้ว จากนั้นช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจเป็นหลัก รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงอยู่ในลักษณะซึม โดยมีแนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,041.64 ล้านบาท ปิดที่ 90.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
MTC มูลค่าการซื้อขาย 1,073.85 ล้านบาท ปิดที่ 59.50 บาท ลดลง 3.75 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 936.20 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 884.67 ล้านบาท ปิดที่ 4.12 บาท ลดลง 0.10 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 866.60 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 1.25 บาท