นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนนงานในไตรมาส 4/64 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 3/64 หลังภาครัฐมีการเปิดประเทศ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้มีการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้น รวมถึงความต้องการรีโนเวท สร้างบ้านใหม่ก็น่าจะกลับมามากขึ้น ขณะที่ทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติ คาดการณ์ว่าในไตรมาสนี้อาจจะปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะปรับราคาให้ครอบคลุมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ใกล้เคียงเดิม
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงดำเนินการปรับปรุงกระบวนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในโรงงาน และร่วมกับกลุ่มลูกค้า ทั้ง โมเดิร์นเทรด ผู้แทนจำหน่าย เพื่อส่งเสริมให้ช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง และหลากหลาย อีกทั้งยังมองการขยายคลังเซรามิกอย่างต่อเนื่อง ราว 5-7 สาขา เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ หรือ Innovation Product ตามแผน
ด้านตลาดส่งออก โดยเฉพาะเมียนมา หลังจากมีความผันผวนของค่าเงินจ๊าดอย่างมากในไตรมาส 3/64 โดยปรับตัวอ่อนค่าถึง 30-40% ปัจจุบันค่าเงินจ๊าดทรงตัวมากขึ้น หรือกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งก็จะทำให้ตลาดกลับมาเดินต่อไปได้ และมองในอีก 1-3 ปีข้างหน้าก็ยังเชื่อว่าเมียนมาจะยังเป็นตลาดที่สำคัญของบริษัทฯ
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 65 เบื้องต้น บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ราว 300-400 ล้านบาท รองรับการขยายคลังเซรามิคอย่างต่อเนื่อง, การลดต้นทุน (Cost saving) และ Energy Saving ซึ่งภาพรวมไม่ได้ต่างจากปีนี้มากนัก ส่วนราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น บริษัทฯ ก็จะดำเนินการปรับราคาขึ้นให้ครอบคลุมกับต้นทุน
"การเติบโตในปี 65 เรายังคงเน้นการขยายเข้าไปในพื้นที่ที่ลูกค้ายังเข้าไม่ถึงเรา หรือไปในจุดที่เรามีมาร์เก็ตแชร์น้อย โดยร่วมกับกลุ่มลูกค้าในทุกๆ ช่องทาง เพื่อเติบโตไปด้วยกัน" นายนำพล กล่าว
ส่วนแผนการจำหน่ายที่ดินเพิ่มเติมนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินที่พร้อมจำหน่ายอีกประมาณ 48 ไร่ ซึ่งก็มีผู้ที่สนใจ หากมีการตกลงกันก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป