นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาต่อยอดการลงทุนในธุรกิจพลังงาน เช่น การให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Station) และการจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ สำหรับใช้ในการติดตั้งบนหลังคา, อาคาร, บ้านและโรงงานต่างๆ คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการธุรกิจพลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ให้กับ QTC อย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมามีการลงทุนในส่วนของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 8.67 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี บนพื้นที่ 220 ไร่
นอกจากนี้การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์ ผ่าน E-Commerce แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อนำร่องขยายเข้ากลุ่มลูกค้าทั่วไป B2C ล่าสุดบริษัทฯ จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ Huawei Smart Logger, Huawei Inverter และ Huawei Power Sensor เป็นต้น
ส่วนธุรกิจเทรดดิ้ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar, Trina Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากที่ผู้ประกอบการเริ่มหันมาให้ความสำคัญในการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา เพื่อลดค่าไฟฟ้าและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อย่างไรก็ตามจากกลยุทธ์ทางธุรกิจในข้างต้น ส่งผลให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่ารายได้อัตราการเติบโตในปีนี้มีแนวโน้มแตะระดับ 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 80% (ภาครัฐ 20-30% ภาคเอกชน 30-40% และต่างประเทศ30-40%) ปัจจุบันมียอดมูลค่างานในมือ (Backlog) แล้ว จำนวน 500 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10-20%
"ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ภาพรวมธุรกิจเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง และทยอยส่งมอบสินค้าได้มากขึ้น เมื่อเทียบจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากการขนส่งสินค้าเริ่มมาสู่ภาวะปกติมากขึ้น ประกอบกับในช่วงไตรมาส 3-4 ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มีการประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกมามากขึ้นในเดือนนี้" นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.64 บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 854.09 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 539.11 ล้านบาท และเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter 163.75 ล้านบาท ส่งผลให้ งวด 9 เดือนแรกบริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรสุทธิที่ 88.20 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 3/64 บริษัทฯ มีรายได้รวม 325.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.41% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา 10.61% แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 240.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.73 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 42.79% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ 42.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.33 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้สาเหตุที่ภาพรวมผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เป็นผลมาจากการส่งมอบหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชน และการส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้ 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็น 50.49% และ ในประเทศ 49.51% ประกอบกับบริษัทฯ มีการวางกลยุทธ์ในการขยายตลาดในธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter มากขึ้น