ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้น 22 จุดเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ แม้สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่อ่อนแอเกินคาดก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 22.28 จุด หรือ 0.17% แตะระดับ 13,311.73 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.70 จุด หรือ 0.05% แตะระดับ 1,469.72 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 5.22 จุด หรือ 0.20% แตะระดับ 2,668.13 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.33 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวานนี้ที่ระดับ 1.30 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 9 ต่อ 7
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปรับตัวขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวรายไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2546 ทั้งนี้ เนื่อมาจากส่งออกที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ขยับขึ้นเพียง 1.7% แตะระดับ 728,000 ยูนิต ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วอยู่ประมาณ 23.5%
นายฟิล ออร์แลนโด นักวิเคราะห์จากเฟดเดอเรท อินเวสเตอร์ส กล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลังจากรองประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดในวันพฤหัสบดี
โดนัลด์ คอห์น รองประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า "ภาวะผันผวนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินเมื่อไม่นานมานี้อาจทำให้เศษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น อีกทั้งจะส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและภาคธุรกิจ"
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นรองประธานเฟดทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 11 ธ.ค.นี้ หลังจากที่เฟดได้อัดฉีดเม็ดเงินอีก 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ระบบการธนาคารเพื่อบรรเทาสภาพคล่องตึงตัว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 39 เซนต์ แตะที่ระดับ 91.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากข่าวที่ว่าเกิดเพลิงไหม้ที่ท่อส่งน้ำมันซึ่งลำเลียงระหว่างแคนาดาไปยังตะวันออกกลาง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป พุ่งขึ้นเกือบ 1%
ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินอ่อนตัวลงหลังจากบริษัทเซียร์ส โฮลดิ้งส์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ โดยหุ้นเซียร์ส โฮลดิ้งร่วงลง 10.5% หุ้นแอปเปิลปิดพุ่ง 2.3%
ส่วนหุ้นอี-เทรด ไฟแนนเชียลดิ่งลง 8.7% หลังจากอี-เทรดซึ่งขาดทุนอย่างหนักในตลาดปล่อยกู้จำนอง ยอมรับว่า บริษัทซิทาเดล อินเวสท์เมนท์ จะจัดหาเงินมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์เข้ามาช่วยกอบกู้สถานะของอี-เทรด นอกจากนี้ มิทเชลล์ เอช แคปแลน ซีอีโอของอี-เทรด ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--