นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/64 มองว่าหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ น่าจะเป็นสัญญาณเชิงบวก จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคม ที่จะกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศให้คึกคัก ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจคาดการณ์ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตกว่าทุกไตรมาส สนับสนุนพอร์ตสินเชื่อให้อยู่ที่ 3,500-4,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นมากกว่า 30% จากพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นปีก่อน พร้อมหนุนกลยุทธ์เปิดสาขาใหม่ เน้นขยายไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับดีมานด์ของการขยายเศรษฐกิจของประเทศ
ในปี 65 บริษัทฯ เตรียมพร้อมขยายธุรกิจใหม่ พร้อมให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกมือสองอย่างครบวงจร พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพิ่มโอกาสสร้างรายได้เข้ามาต่อเนื่อง ล่าสุดเดินหน้าให้บริการบริษัท ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ จำกัด บุกตลาดโบรกเกอร์ ประกันภัย และเตรียมจัดตั้งบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกันและสินเชื่อที่ไม่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน โดยได้รับมติคณะกรรมการบริษัทให้จัดตั้งแล้วนั้น คาดว่าจดทะเบียนจัดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/65 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท (MICRO ถือหุ้น 99.99 %)
ผลประกอบการไตรมาส 3/64 เติบโตสวนกระแสท่ามกลางสภาวะล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบต่อหลากหลายอุตสาหกรรม โดยสำหรับงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 141.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.89% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 94.47 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 450.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.27% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 314.63 ล้านบาท
โดยรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อ รายได้อยู่ที่ 357.07 ล้านบาท โตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 97.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.80% และมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 87.44 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 35.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 67.07% รายได้เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อและยอดปล่อยสินเชื่อใหม่
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 40.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.89% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.01 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 162.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.66% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 112.14 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง 130.66 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 29.81 ล้านบาท และรายได้อื่น 1.74 ล้านบาท ขณะที่หนี้ NPL ณ สิ้นไตรมาส 3/64 อยู่ที่ระดับ 3.48%