SKE รุกหนักธุรกิจ RDF ครบวงจรวางเป้าขึ้นผู้นำ-ยุบธุรกิจ NGV หวังดันกำไรฟื้นโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 12, 2021 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งสู่ธุรกิจเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการภายใน 5 ปี (65-69) จะเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจ RDF ครบวงจร ประกอบด้วย บ่อขยะ โรงงานผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงขยะ ตลอดจนโรงไฟฟ้าจากขยะ และวางเป้าเป็นผู้นำในธุรกิจดังกล่าว ด้านคุณภาพและกำลังการผลิตที่มากที่สุดในประเทศไทยในปี 65 หรือมีกำลังการผลิตที่ 600-650 ตัน/วัน จากโรงงานผลิต RDF ทั้ง 2 แห่ง ในจ.ชลบุรี และสระบุรี

ทั้งนี้ ในช่วง 1-3 ปีแรก (65-67) บริษัทจะเน้นการดำเนินธุรกิจต้นน้ำและกลางน้ำเป็นหลัก โดยช่วงแรกธุรกิจต้นน้ำบริษัทจะดำเนินการในส่วนของ บ่อขยะ (Landfill) ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการเจรจากับบ่อขยะ ราว 2-3 แห่ง เพื่อเสนอตัวเข้าไปคัดแยกขยะ ทั้งขยะเก่าในหลุมที่มีอยู่ และขยะใหม่ ซึ่งจะทำให้บริษัทได้วัตถุดิบป้อนให้กับโรงงานผลิต RDF ใน จ.สระบุรี (โรงงานใหม่)

ส่วนธุรกิจกลางน้ำ บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 400 ล้านบาทในปี 65 เพื่อลงทุนโรงงานผลิต RDF กำลังการผลิต 580 ตันต่อวัน หรือประมาณ 200,000 ตันต่อปี ซึ่งโรงงานออกแบบให้สามารถผลิตแท่ง RDF ขนาด 35 มิลลิเมตร, 50 มิลลิเมตร และขนาดต่ำกว่า 100 มิลลิเมตร เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่หลากหลายของแต่ละอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยการก่อสร้างและทดสอบระบบจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/65 จากนั้นจะสามารถเปิดดำเนินการและเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/65 ทันทีราว 80 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อ RDF แล้ว 135,000 ตันต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 70% ของกำลังผลิต เป็นระยะเวลา 6 ปี คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท จากบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (รวมถึงบริษัทในเครือ) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงที่โรงงานในพื้นที่แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้ ส่วนอีก 30% ของกำลังการผลิต จะขายให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และโรงไฟฟ้าขยะในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าในมือแล้ว

จากนั้นในปีถัดไป บริษัทจะมุ่งไปสู่ธุรกิจปลายน้ำ หรือการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 69 เป็นต้นไป

"การมุ่งสู่ธุรกิจ RDF เรามองว่าเป็นโอกาสในการเติบโต ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถพลิกฟื้นผลการดำเนินงาน โดยเฉพาะกำไรสุทธิของบริษัทจะกลับมาเติบโตมากกว่า 100 ล้านบาท/ปีได้ หรือเทียบเท่าในช่วงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 60 ที่สามารถมีกำไรสุทธิ ราว 120 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป" นายจักรพงศ์ กล่าว

สำหรับภายหลังจากเดินเครื่องผลิตและจำหน่าย RDF ในช่วงปลายปี 65 แล้ว บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวที่ 360 ล้านบาท/ปี ซึ่งจะเป็นส่วนที่เข้ามาสนับสนุนรายได้และกำไรสุทธิในปี 65 เติบโตดีกว่าปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีหน้าเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาท

นายจักรพงศ์ กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทจะทยอยลดสัดส่วนธุรกิจการอัดก๊าซธรรมชาติ (NGV) ลงจนเหลือศูนย์(ยกเลิก) หลังความต้องการใช้ลดลงต่อเนื่อง รวมถึง บมจ.ปตท. (PTT) ได้ยกเลิกสัญญาจ้างอัดก๊าซฯ ในปี 65 ขณะที่ยังคงดำเนินงานในธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลต่อไป แต่จะไม่ลงทุนหรือขยายงานเพิ่มในขณะนี้

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 64 คาดว่าน่าจะทำได้ใกล้เคียงปีก่อน ยอมรับว่าคงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณการใช้ก๊าซ NGV ลดลง ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิงก็ปิดซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาส 3/64

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น จากโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง เปิดดำเนินงานตามปกติรวมถึงความต้องการใช้ก๊าซ NGV ก็เพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ของโควิด-19 คลี่คลาย

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของ SKE รับรู้รายได้รวม 112.21 ล้านบาท ลดลง 15.1% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ในขณะที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3.31 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 77.7% เนื่องจากปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติที่ลดลงของสถานีปทุมธานีและสถานีสระบุรี รวมทั้งการปรับช่วงเวลาการซ่อมบำรุงตามแผนของโรงงานไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง

ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง รายได้อยู่ที่ 66.94 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักเกิดจากจำนวนชั่วโมงการหยุดผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องด้วยการปรับช่วงเวลาการซ่อมบำรุงจากไตรมาส 4 เป็นไตรมาส 3

ในด้านผลการดำเนินงานของ N15 Technology ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารจัดการของเสียหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย โดยการคัดแยกและแปรรูปขยะ เป็นเชื้อเพลิงขยะ RDF โดย SKE ได้เข้าซื้อ N15 Technology เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64 รายได้อยู่ที่ 53.47 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ