นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจะทำให้รายได้ปีนี้โตตามเป้าหมาย
ผลการดำเนินการในงวด 9 เดือนของปี 64 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 56.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.57 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลเติบโตจากการดำเนินงานธุรกิจของบริษัทฯ และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากธุรกิจการให้ใช้ใบอนุญาตการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และการให้บริการในทุกประเภทธุรกิจ ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายและการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 494.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 28.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการขายและให้บริการรวม 489.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.90 ล้านบาท และมีรายได้อื่น 4.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.50 ล้านบาท ซึ่งยังคงมีรายได้หลักจากธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) คิดเป็น 53.3% ของรายได้รวม โดยมีรายได้อยู่ที่ 263.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.11 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตในกลุ่มรายได้การอนุญาตให้เช่าในระบบซอฟต์แวร์ และการให้บริการออกแบบติดตั้งและบริการหลังการขายระบบ CRM ในกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่จากธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันภัย
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) คิดเป็นสัดส่วน 34.4% ของรายได้รวม โดยมีรายได้ 170.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.25 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากลูกค้าใหม่ในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ ประกอบกับการให้เช่าระบบซอฟต์แวร์ (On Cloud) ที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากฐานลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ รวมถึงการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ E-Tax on Cloud ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง
ขณะที่รายได้จากการบริการที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) และการตลาดดิจิทัล ซึ่งเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 5.9% ของรายได้รวม และมีรายได้อยู่ที่ 28.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.59 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 116.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการให้บริการลูกค้าใหม่จากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจโรงพยาบาล และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยา
ด้านรายได้จากธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (iiG Data) ซึ่งเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4/63 ที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 1.9% ของรายได้รวม มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 9.48 ล้านบาท ซึ่งเป็นการให้บริการต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการมีลูกค้ารายใหม่ในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต สำหรับรายได้จากบริการจัดหาบุคลากรทางด้านระบบงานสารสนเทศ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 3.6% ของรายได้รวม มีรายได้อยู่ที่ 17.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 33.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากลูกค้าใหม่จากการให้บริการในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและพลังงาน และธุรกิจประกันภัย
"ถึงแม้การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ยังคงส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจโดยรวม แต่ในส่วนของบริษัทฯ อาจจะถือได้ว่าได้รับประโยชน์โดยทางอ้อม จากการที่กิจการขนาดใหญ่ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและให้สอดคล้องกับสถาณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงส่งให้แนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และสามารถรักษาการเติบโตของบริษัทฯ เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง" นายสมชาย กล่าว