GSTEEL บวก 3.8% โบรกฯคาดQ3/50 พลิกมีกำไรจากยอดขายพุ่ง มาร์จิ้นดี

          หุ้น GSTEEL บวก 3.80% อยู่ที่ 0.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท เมื่อเวลา 10.21 น.โดยเปิดตลาดที่ 0.82 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 0.84 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 0.81 บาท 
          บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ" GSTEEL โดยคาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 3/50 ที่พลิกฟื้นขึ้นมามีกำไรสุทธิอย่างโดดเด่น เท่ากับ 415 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท) เพิ่มขึ้น 69% จากไตรมาสก่อน และ 122% จากปีก่อน  โดยได้แรงหนุนสำคัญจากปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้น  โดยปริมาณขายประเมินว่าจะพุ่งขึ้นมาเป็น 300,000 ตัน
          ทิศทางราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนในปัจจุบันได้ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณ 20,000 บาท/ตัน เศษๆ จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 3/50 อยู่ที่ประมาณ 19,500 บาท/ตัน  ส่วนปริมาณขายคาดหมายว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีที่ประมาณ 300,000 ตัน จากผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนรายอืนที่ใช้ Slab เป็นวัตถุดิบประสบปัญหา  Slab ราคาแพงและขาดแคลน  หลังจากจีนมีมาตรฐานเก็บภาษีส่งออก Slab เป็น 15%  จากผลดังกล่าวคาดว่าจะยังช่วยหนุนผลกำไรไตรมาส 4/50 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน
          การเข้าซื้อ NSM ของ GSTEEL ทำให้ต้องใช้เงินกู้จำนวน 120 ล้านเหรียญ  โดยทาง GSTEEL  สามารถรีไฟแนนซ์เงินกู้ดังกล่าวสำเร็จหลังจากประสบปัญหายืดเยื้อมาระยะหนึ่ง  แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้นเป็น SIBOR + 4.5% จากเดิม SIBOR + 3.5% รวมกับค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 1-2% ของเงินกู้   โดยภาระหนี้รวมของ GSTEEL ค่อนข้างสูงถึง 10,998 ล้านบาท ด้วยภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าปกติทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 10%  โดยปัจจุบันยังไม่ปรากฏในงบกำไรขาดทุนที่เต็มจำนวนเนื่องจากนำไปรวมในงบลงทุน คาดว่าภาระเงินกู้ดังกล่าวจะสร้างภาระต่อ GSTEEL ในช่วง 2 ปีข้างหน้า 
          ภายใต้เงื่อนไข P/E 10 เท่าในปี 2551 ประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 1.1 บาท  จากแนวโน้มคาดหมายว่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 นี้  ดังนั้น จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ ในลักษณะ เก็งกำไร ด้วยความระมัดระวัง  โดยมีประเด็นที่กังวลและปัจจัยเสี่ยงในอนาคตคือ ภาระหนี้ ซึ่งมีการจ่ายดอกเบี้ยที่สูงถึงประมาณ 10% จะเป็นภาระต่อ GSTEEL ในช่วง 2 ปีข้างหน้า
          เช้านี้ นสพ.ระบุ แหล่งข่าวคาดกำไรไตรมาส 3 เติบโต 124% รับอานิสงส์ปลายปีดีมานส์ขยับ ราคาเหล็กพุ่ง พร้อมเปิดบ้านรับพันธมิตรเสริมความแกร่ง หลังควบ NSM ได้มาร์เก็ตแชร์ 70%