นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังคงทยอยรับรู้รายได้ตามงานในมือที่มีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถรถรับงานใหม่เพิ่มเข้ามาได้ โดยงานส่วนใหญ่ยังคงมาจากโครงการภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่โครงการในส่วนของภาคเอกชนน่าจะเริ่มฟื้นตัว และบริษัทคาดว่าจะรักษารายได้การเติบโตในปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง จากงานในมือที่เพิ่มขึ้น และจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 33.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 82% เทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจากบริษัทผลิตงานที่ได้รับมาใหม่ช่วงต้นปีได้มากขึ้น การบริหารค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ และปรับการบริหารงานให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์ในปัจจุบัน และควบคุมงานก่อสร้างได้ตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 440.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการรวม 434.12 ล้านบาท และมีรายได้อื่นอยู่ที่ 6.11 ล้านบาท
โดยรายได้จากการให้บริการส่วนใหญ่ยังคงมาจากงานโครงการภาครัฐ ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 291.03 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 35% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการรับงานใหม่เพิ่มเข้ามาและสามารถผลิตงานได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถบริหารและดำเนินการงานก่อสร้างได้ตามเป้าที่วางไว้ ถึงแม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการปิดไซต์งานก่อสร้างตามมาตรการการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐที่ประกาศบังคับใช้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.ถึงสิ้นเดือน ก.ค.ส่งผลให้รายได้จากโครงการเอกชนลดลง โดยมีรายได้อยู่ที่ 112 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ จากการผ่อนคลายมาตรการการล็อคดาวน์ในประเทศลง
ส่วนของรายได้จากการให้บริหารงานในโครงการต่างประเทศนั้น ได้ปรับลดลงตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้บริษัทประสบความลำบากในการรับงานในโครงการต่างประเทศ แต่เนื่องจากบริษัทเริ่มทยอยรับงานโครงการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อนเข้ามาใหม่ในช่วงไตรมาส 3/64 ส่งผลให้มีรายได้จากการให้บริการงานธุรกิจเกี่ยวเนื่องปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 26%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 54%จากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ในภาพรายได้ในภาพรวมของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ สามารถรักษาการเติบโตไว้ได้
"แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบให้บริษัทฯ มีการปิดไซด์งานก่อสร้างประมาณ 1 เดือน ตามนโยบายของภาครัฐ ในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ บางส่วน แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับการรับงานใหม่เพิ่มเข้ามาทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากงานในมือที่เพิ่มขึ้น" นายอภิชาติ กล่าว