นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่กลับมาฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้ยอดส่งออกไปยังต่างประเทศที่คิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้รวม เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
อีกทั้งบริษัทได้ทำสัญญาการขนส่งล่วงหน้ากับบริษัทขนส่งทางเรือ รวมทั้งสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยอดขายใน 4 โซนหลัก คือ เอเชียและตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา และยุโรป กลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะขยับแตะ 2,100 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ทั้งจากโรงงานในประเทศไทยและประเทศอินเดีย ประมาณ 700 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/64 มีรายได้รวม 537.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.5 ล้านบาท หรือ 15.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 466.7 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 3/64 จำนวน 528.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.8 ล้านบาท หรือ 23.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทฯเซ็นสัญญาค่าขนส่งของทวีปอเมริกาใต้ล่วงหน้าได้ในราคา 5,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตู้ จนถึงสิ้นปี 2564 (ปัจจุบันราคา 14,000 ดอลลาร์) ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้น (จาก 50.5 ล้านบาท เป็น 76.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.9 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอีก 4 โซนหลัก คือ เอเชียและตะวันออกกลาง, ออสเตรเลีย, แอฟริกา และยุโรป เป็นจำนวน 7.3 ล้านบาท , 5.7 ล้านบาท , 5.7 ล้านบาท และ 3.0 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 69.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.6 ล้านบาท หรือ 140.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 29 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ประกอบกับทางบริษัทฯ มีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นทั้งการขึ้นราคาสินค้า,ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจากฝ่ายผลิต และการสูญเสียจากการผลิตลดลง
ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 64 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 188.19 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 8.09 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรทั้งปีของปี 61 , 62 และ 63 ที่มีกำไรสุทธิ 125.55 ล้านบาท 186.79 ล้านบาท และ 18.75 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่รายได้อยู่ที่ 1,552.6 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตอย่างก้าวกระโดด สูงกว่าตัวเลขกำไรสุทธิทั้งปีของปี 61-63 ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการเทิร์นอะราวด์ของ FPI ที่มุ่งขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น"นาสมพล กล่าว