นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) เปิดเผยว่า บริษัทและบมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ร่วมลงทุนโปรเจกต์สถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ผ่านบริษัทร่วมทุน พีพีดับบลิวอี (PPWE) โดยวางงบลงทุน 15 ล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจากมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (24 มี.ค.2564) ซึ่งมุ่งไปที่การเพิ่มสัดส่วนการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็น 30% ภายในปี 73 วางเป้าหมายในปี 68 ที่จะให้ประเทศไทยมีการใช้ยานรถยนต์ไฟฟ้ารวมทุกประเภทจำนวนทั้งสิ้น 1,055,000 คัน แบ่งออกเป็น รถยนต์และรถกระบะ 402,000 คัน และในปี 2578 ให้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 18.41 ล้านคัน แบ่งออกเป็นรถยนต์และรถกระบะ 8,625,000 คัน
บริษัทจึงมองเห็นถึงศักยภาพการต่อยอดทางธุรกิจในด้าน EV Station ที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนด้าน Energy Efficiency และ Zero-Emissionเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว และการสร้าง Synergy ร่วมกับบริษัทพันธมิตร เพื่อให้เกิด New S-Curve ของ UAC Group ในอนาคตอันใกล้นี้
โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเข้าลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charging Station โดยเป็นการลงทุนร่วมกับ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อร่วมพัฒนาและลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ภายใต้บริษัทร่วมทุน พีพีดับบลิวอี (PPWE) โดยบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ในเครือ UAC Group และ QTC Energy ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนบริษัทละ 49.98%
ล่าสุดคณะกรรมการทั้ง 2 บริษัท ได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท PPWE เป็น 40 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV charging station) ในรูปแบบชาร์จไฟแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC EV Quick Charger) ที่มีขนาดสูงสุดถึง 200 kW
พร้อมกันนี้ในเฟสแรกจะติดตั้งเครื่องชาร์จของบริษัท คอสเทล จำกัด (COSTEL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องชาร์จไฟฟ้าชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2559 และจะเน้นติดตั้งสถานีในพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด
ด้านนายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) กล่าวว่า การลงทุนในโปรเจ็คต์การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV charging station) ร่วมกับ UAC ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน
จากนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ใช้รองรับการให้บริการในการชาร์จกระแสไฟฟ้ากับรถยนต์ที่ทยอยออกสู่ตลาด ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการให้บริการ เพราะมีสินค้ารองรับที่ครบวงจร ทั้งหม้อแปลงไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter เพื่อใช้กับแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีสถานีให้บริการมากกว่า 7,000 สถานีทั่วประเทศ ทั้งสถานีให้บริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ร้านค้าปลีกต่างๆที่ ใช้อุปกรณ์การชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV เพิ่มขึ้น
สำหรับเป้าหมายในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV charging station) ในเฟสแรก จำนวน 4 สถานี รวม 12 หัวจ่าย โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 3-4 ล้านบาทต่อสถานี คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ 15 ล้านบาท ในปี 2565 และในอนาคต ตั้งเป้าสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า 50 สถานี หรือ รวมทั้งหมด 150 หัวจ่าย ครอบคลุมทั่วประเทศ
"ในอนาคตรถ EV จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยทั้ง UAC และ QTC ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว โดยมั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเสริมทัพในส่วนของการเป็นผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้าของ QTC และการต่อยอดธุรกิจ Energy Efficiency ของ UAC ได้อย่างลงตัวภายใต้บริษัทร่วมทุน PPWE อย่างมีนัยสำคัญ" นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือว่าเป็นการต่อยอดธุรกิจภายใต้การเป็น Strategic Partner เพื่อศึกษาการลงทุนในโปรเจกต์ ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV charging station) รองรับการเติบโตตลาดยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ ตอบโจทย์ผู้ใช้รถ EV ในอนาคต โดยทาง QTC นั้นมีความเชี่ยวชาญด้านงาน EPC ระบบไฟฟ้า พันธมิตร Global Brand Partner และการพัฒนาระบบหม้อแปลงไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Transformer Monitoring System) ด้าน UAC มีความโดดเด่นด้านการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้งในธุรกิจ Trading จนได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าการลงทุนผ่านบริษัท PPWE ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้ง QTC และ UAC อย่างครบทุกมิติมากขึ้น