*เหรียญ POPCOIN ค่าย RS เขย่าวงการ Marketing
บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.อาร์เอส หรือ RS Group จับมือกับ บริษัท ฟิวเจอร์ คอมเพเทเร่ จำกัด ที่ปรึกษาผู้ชำนาญการด้านจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดตัว "Smart Marketing Platform" พร้อมกับเหรียญ "Popcoin" เหรียญที่จะมาเพิ่มมูลค่าการตลาดในทุกมิติ เพื่อต่อยอดและเชื่อมต่อการทำการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ โดยจะสามารถแก้จุดอ่อนทางธุรกิจของทั้งด้าน Sponsor, Content Creator ผ่านการใช้งานเหรียญ "Popcoin"
ปัจจุบัน เหรียญ "Popcoin" ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม เพื่อจะนำขึ้นบนกระดานซื้อขาย BITKUB ในช่วงต้นปี 65
สำหรับผู้ที่สนใจเหรียญ "Popcoin" สามารถลงทะเบียนรับฟรี 100 เหรียญ ที่ www.popcoin.co และถ้าแนะนำเพื่อนให้ใช้ Referral ของเราก็จะได้เหรียญเพิ่มอีก 25 เหรียญด้วย
*ไขข้อสงสัย Somdej Coin
ช่วงนี้หลายคนอาจจะได้ยินชื่อเหรียญ "Somdej Coin" กันแล้วก็มีคำถามตามมามากมายเลยว่านี่มันเหรียญอะไรกันแน่ หรือว่าว่ากรมพระพุทธศาสนาจะออกเหรียญดิจิทัลหรืออย่างไร ?
ต้องบอกว่าเหรียญ "Somdej Coin" หรือ "SDC" ไม่ใช่เหรียญที่ออกโดยกรมพระพุทธศาสนา แต่คือเหรียญ "โทเคน" ที่ถูกสร้างขึ้นบน "Binance Smart Chain" มีจำนวนกว่า 66 ล้านเหรียญ เท่ากับจำนวนประชากรประเทศไทยในปี 63
ผู้สร้างระบุใน Whitepaper ว่าเหรียญสร้างขึ้นเพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสช่วยเหลือและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และทุกครั้งที่มีการซื้อขายเหรียญ ระบบจะทำการหักเงืน 9% เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมและบำรุงศาสนาตามที่กล่าวมาข้างต้น
ทั้งนี้ ทางผู้สร้างเหรียญได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อขออนุมัติการนำเหรียญเข้าซื้อขายบนกระดาน Exchange ของไทย และ ก.ล.ต.ได้แจ้งกลับเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากทุกธุรกรรมที่มีการ ซื้อ-ขาย จะถูกหัก 9% แบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กันเพื่อนำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสังคม นำไปเสริมสภาพคล่องในระบบ และนำไปเพิ่มเหรียญให้แก่ผู้ถือเหรียญ อันอาจมีลักษณะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีการถือครองเหรียญเพื่อการลงทุนมากกว่าการทำบุญ จึงมีข้อสังเกตว่ามีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเหรียญ รวมทั้งถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวัดหรือไม่
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ยังต้องพิจารณาถึงลักษณะของเหรียญว่าเข้าข่าย 4 ลักษณะเหรียญต้องห้ามในการลิสต์เหรียญขึ้นกระดาน อันได้แก่ Meme Token, Fan Token, NFT และ Native Token หรือไม่
*Binance นำเมนูภาษาไทยออกแล้ว
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ "Binance" กระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังระดับโลก ประกาศจะยกเลิกให้บริการเมนูภาษาไทยที่ให้บริการอยู่บนทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเว็บไซด์ และ Mobile Application โดยประกาศนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.64 เวลา 13.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ผู้ใช้งานคนไทยก็ออกมาตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ? จนถึงขึ้นมีกระแสว่า "ตลาดแลกเปลี่ยนแบบ Peer-To-Peer" (p2p) จะถูกระงับด้วยหรือไม่ ?
ขณะที่ "Binance" แจ้งว่ากำลังพยายามจะ work on กับหน่วยงานที่กำกับและควบคุมในบ้านเรา นั่นก็คือกระทรวงการคลัง และ สำนักงาน ก.ล.ต.
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคนไทยยังมี "Exchange" อีกมากมายที่ให้บริการเมนูภาษาไทย เช่น FTX Exchange หรือ gate.io หรืออาจใช้บริการเทรดบนกระดานไทยที่ได้ License จาก ก.ล.ต.แล้ว อย่าง Bitkub, Satang Pro, Zipmex หรือ Bitazza ก็ได้
https://youtu.be/ab281eiLtPY