นายกิตติศักดิ์ คงคา เจ้าของเพจลงทุนศาสตร์ เปิดเผยให้แนวคิดการลงทุนในยุค New Normal ที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อน โดยให้"ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน"ก็พอ ซึ่งโลกเปลี่ยนเราจะต้องปรับการลงทุนของตัวเอง ต้องหาความรู้และทำความเข้าใจใหม่ แม้มันจะขัดกับความรู้ที่เราเคยเรียนมา อย่างนักลงทุนสมัยก่อนจะโฟกัส Old Business ซึ่งเข้าใจง่าย ลงทุนง่าย แต่ตอนนี้เราเป็น Global Invester ซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหนก็ส่งผลกระทบต่อเราไปด้วย
จริง ๆ โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก องค์กรธุรกิจบางทีก็ลืมมองการเปลี่ยนแปลงโลก สุดท้ายก็จะเสียหาย และถ้าเปลี่ยนแปลงช้าก็จะเสียโอกาสในการลงทุนดี ๆ ไป
ในช่วงต้นปี 2561 เป็นช่วงเวลาที่หาหุ้นไทยลงทุนได้ยาก ทั้งที่เศรษฐกิจก็ไม่ดีเท่าไร เรียกได้ว่าหุ้นแพง ดังนั้นจึงแบ่งพอร์ตลงทุนครึ่งหนึ่งย้ายไปลงทุนต่างประเทศ 12 ตัวที่ลงทุนก็ได้ผลตอบแทนเกิน 100% ไม่กี่ปีพอร์ตลงทุนเติบโต 2-3 เท่า แต่พอหุ้นไทยลงมาต่ำกว่า 1,000 จุด ก็เข้าซื้อหลายตัว ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาหาโอกาสลงทุนไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะลงทุนในไทย และต่างประเทศ ซึ่งก็ชอบถือหุ้นนานหน่อย เลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตยาว ๆ หุ้นไทยจะซื้อเมื่อถูก เพราะเศรษฐกิจไทยไม่ได้เติบโตดีมาก จึงมองซื้อหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งทั่วโลกมีหุ้นเป็นหมื่นตัว ก็ลงทุนได้หมด
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดนักลงทุนต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วพลาดจะเจ็บกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งอคตินี้เป็นกับทุกเรื่อง เป็นพื้นฐานทางความคิด ทำให้ไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เหมือนกับการลงทุนถ้าเราไม่เอาตัวเองไปเจอที่ใหม่ ๆ ซึ่งธรรมชาตินักลงทุนไม่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ง่าย ดังนั้นเราต้องปรับตัวให้ทันโลกและธุรกิจใหม่ให้เร็ว ซึ่งต้องเปิดใจศึกษา
อย่างกลุ่มโรงพยาบาลมีการเติบโตที่ช้ามาก สุดท้ายก็ต้องยอมรับตัวเองว่าต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งระยะเริ่มต้นจะยึดติดกับผลลัพธ์ไม่ได้ ไม่งั้นจะเครียดมาก ระยะต้นต้องการแค่ยึดติดกับ Process เริ่มต้นศึกษาแล้ว เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ ในช่วงระยะของการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถยึดกับผลลัพธ์
สำหรับการลงทุนสกุลเงินคริปโต จะต้องตั้งกระบวนการให้ชัดเจน ไม่ว่าจะลงทุนในแง่ปัจจัยพื้นฐาน หรือเทคนิคเคิล ซึ่งการประเมินในแง่มูลค่าตามพื้นฐานก็ประเมินมูลค่าได้ผ่าน ICO แต่อาจจะยากหน่อย ส่วนการลงทุนที่อิงเทคนิคเคิลก็จะตอบโจทย์ได้ในแง่กลยุทธ์ ดังนั้นจึงมองว่าการลงทุนจะต้องมีวินัยเข้า/ออกให้ชัดเจน
ด้านนายรวิศ หาญอุตสาหะ CEO บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เจ้าของเพจและพอดแคสต์ Mission To The Moon กล่าวว่า เข้าใจว่าองค์กรส่วนใหญ่หมุนช้ากว่าข้างนอก เพื่อให้ทันโลกที่เปลี่ยนไป จะต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองก่อน ในการปรับเปลี่ยนต้วเองและจะต้องรับรู้อะไรได้บ้าง อย่างธุรกิจของศรีจันทร์ ตอนนี้มาร์เก็ตติ้งมีการเปลี่ยนไปมาก เราต้องเรียนรู้เพิ่มอย่างต้องเพิ่มทักษะทางเทคนิคเคิล มีการวางเทคโนโลยีอย่างไร ต้องเป็น Super user ได้สร้างแบบฟอร์มเองเป็น และต้องปรับเปลี่ยนองค์กรด้วยเพื่อให้ทันโลก ซึ่งมองการเปลี่ยนแปลง (Transformation) จะต้องมีไปตลอด ต้องเรียนรู้ไปตลอดจนกว่าเราจะเลิก
ส่วนน.ส.มัญฑิตา จินดา Founder of Digital Tips Academy กล่าวว่า ยุคนี้ถ้าเราไม่ปรับตัว เราก็จะไม่รอด โดยธุรกิจ SME คงจะต้องเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะต้องหันมาดู Data มากยิ่งขึ้น ต้องเริ่มรู้จักขวนขวายหาข้อมูล อย่างดู Asset ที่มีของบริษัทคืออะไร จุดเด่นอะไร ทีมงานเป็นไร และก็ไปดูลูกค้าอยู่ที่ไหน เราก็จะกระโดดไปหา
ความยากสุดในการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ตัวเราเอง ในการเข้าใจผู้บริโภค Data เข้าใจลึกแค่ไหน การรู้เท่าทัน ซึ่งตอนนี้มีเทคโนโลยีที่เราต้องเรียนรู้เท่าทันการใช้ ในเชิงนักการตลาดทำอย่างไรไม่ให้ติดกับ "ฟองสบู่ตัวกรอง" เราต้องอ่านอะไร ชอบอะไร เราเป็น user ก็ชอบ ข้อเสียถ้าเราติดอยู่ จะไม่รู้คนอื่นคิดยังไง เราจะคิดอยู่แต่โลกของเรา ซึ่งมันอันตราย เราทำธุรกิจเราต้องสำรวจมาก ๆ ในฐานะนักการตลาดเราต้องเข้าไปดู และออกมาในมุมมองผู้บริโภคไม่งั้นจะติดกับตัวเอง
การเปลี่ยนแปลงให้ทันผู้บริโภค ตอนนี้ผู้บริโภคมีหลากหลายมาก อย่างพวกเจน C และเจน Y จะมีความแตกต่างกันมาก, ความหลากหลายทางเพศก็ต้องทำความเข้าใจ ซึ่งเราต้องปรับตวให้เร็วพอ "ออกจากตัวเองให้ได้และเข้าใจลูกค้า" ยุคนี้เราต้องลุกไปคุยกับลูกค้ามาก ๆ เราจะเข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น