บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) ระบุว่า วันศุกร์ที่ผ่านมา Dow Jones ปรับฐานลงมา 0.75% นักลงทุนกังวลกับการระบาด COVID-19 ในสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งกำลังเกิดการระบาดหนักอีกครั้งในเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ขณะเดียวกันปัจจัยดังกล่าวได้กดดันให้ราคาน้ำมัน WTI และ BRT ปรับฐานลง 3.7% และ 2.9% ตามลำดับ ปัจจัยข้างต้นอาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ รวมถึงกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงแรมที่มีพอร์ตรายได้ใน EU (MINT)
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องของ COVID-19 มีผลต่อตลาดหุ้นเพียงระยะสั้น เนื่องจากในระยะกลาง COVID-19 จะดีขึ้นจากวัคซีนที่มีพัฒนาการรวมถึงยารักษา
ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ (1) การประกาศแผนการร่วมมือกันระหว่าง TRUE และ DTAC ในต้นสัปดาห์ ทั้งนี้หากเราทราบผลประชุมจะมีการรายงานอีกครั้ง (2) ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในวันจันทร์ Bloomberg ประเมินส่งออก +16.5%YoY และนำเข้า +29.6%YoY หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดอาจทำให้บรรยากาศการลงทุนเป็นบวกบ้างเล็กน้อย (3) ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศวันอังคารสหรัฐมีกำหนดรายงาน PMI ภาคบริการและภาคผลิต Bloomberg ประเมินที่ 59.1 และ 59 ตามลำดับ ส่วนอีกตัวเลขจะอยู่ในวันพฤหัสบดีสำหรับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg Consensus ประเมินที่ 2.59 แสนราย
ดังนั้น จากปัจจัยทั้งหมดเชื่อว่ามีผลต่อการลงทุนไม่มากนักจึงเชื่อว่า SET INDEX สัปดาห์นี้จะยังแกว่งในกรอบ 1,625-1,660 จุด กลยุทธ์การลงทุน หากต้นสัปดาห์ปรับตัวลงจากความกังวล COVID-19 ระบาดใน EU มองเป็นโอกาสสะสม โดยเฉพาะกลุ่มอิงภายในประเทศ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL) รถไฟฟ้า (BTS BEM) สื่อนอกบ้าน (VGI) เครื่องดื่ม (TACC) ร้านอาหาร (M) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ขณะที่หากระหว่างสัปดาห์เกิดการปรับฐานก็มองเป็นโอกาสสะสมเช่นกัน ส่วนระยะสั้นแนะ (AH BCP EPG PTG SAT TOA)