ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลง ตามดาวโจสน์ร่วงแรง กังวลซับไพร์ม-ดอลล์อ่อนค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 8, 2007 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ปรับลง ปัจจัยลบจากตลาดภายนอกที่ดาวโจนส์ร่วงแรง 360 จุด ถือว่ามีผลกับตลาดหุ้นอื่นในเอเชียพอสมควรจากประเด็นเดิมความกังวลในเรื่องของสินเชื่อที่อยู่อาศัยและเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงเป็นประเด็นที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสหรัฐอยู่ในช่วงนี้ 
ราคาน้ำมันมีการทำนิวไฮเมื่อคืนในส่วนการซื้อขายแต่ในช่วงปิดตลาดก็ลดลงเพราะมีการขายทำกำไร ในแง่ของราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงอยู่ แต่ในแง่ตลาดหุ้นมีการชะลอตัวลง ฉะนั้นประเด็นจากภายนอกมองเป็นลบ ขณะที่ประเด็นในประเทศไม่มีประเด็นหนุน ส่วนใหญ่การซื้อขายในบ้านเราตอนนี้ค่อนข้างจะผันผวน เช้าบวกขึ้นไปบ่ายลงมา ทิศทางค่อนข้างผันผวนมากในช่วงนี้ ถ้าดูจากประเด็นเหล่านี้มองตลาดวันนี้ปรับตัวลงมากกว่า แนวรับ 872 จุด แนวต้าน 890 จุด
"เมื่อวานตลาดปิดใกล้แนวรับ 880 จุดอยู่ ถ้าวันนี้เปิดมาแล้วปรับลงตามเพื่อนบ้านก็ต้องดูแถว 872 จุด ช่วงนี้แนะนำถือเงินสดเพราะตลาดยังมองไม่ค่อยดีในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านเราอาจจะไม่ได้ลงแรงมาก น่าจะเป็นลักษณะถอยลงมาแต่ความรุนแรงมองว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้ตอบรับในเรื่องความผันผวนค่อนข้างมากแล้ว" นายอนุพนธ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(7 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,300.02 จุด ลดลง 360.92 จุด(-2.64%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,475.62 จุด ลดลง 44.65 จุด(-2.94%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,748.76 จุด ลดลง 76.42 จุด (-2.70%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,036.59 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 96.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.33 ดอลลาร์
- พาณิชย์สั่งตรึงราคาปุ๋ยเคมี อาหารสัตว์ ยาฆ่าแมลง ถึงสิ้นปีนี้ หวังบรรเทาต้นทุนภาคเกษตรกรไม่ให้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง วอนผู้ผลิตทบทวนต้นทุนและราคาที่ยื่นขอปรับใหม่ ก่อนทยอยขึ้นหลังปีใหม่ ด้าน 'เชลล์-ปิโตรนาส-ซัสโก้' ปรับราคาน้ำมันเบนซิน 95 ขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตรวันนี้หลังรับภาระขาดทุนกว่า 2 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทำสถิติใหม่แตะ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- เปิดเวทีประชันวิสัยทัศน์ 5 หัวหน้าพรรค ชูนโยบายลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ประชาชน ไม่ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 'สุวิทย์' ยกสมานฉันท์ เดินหน้ากองทุนหมู่บ้าน ด้าน 'อภิสิทธิ์' โชว์กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระ-เรียนฟรี ส่วน 'ประชัย' ยึดนโยบายรัฐสวัสดิการจุดขาย ขณะที่ 'เชษฐา' แนะแก้ที่การเข้ามาของนักการเมืองให้โปร่งใส
- ภาคบริการ-การท่องเที่ยว เสนอรัฐบาลใหม่ รื้อโครงสร้างบริหารจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการแบบบูรณาการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันประเทศคู่แข่ง ระบุหากทำได้เงินไหลเข้าประเทศอีกมหาศาล แนะลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยดูดเงินนักช้อปต่างชาติ สานฝัน 'ชอปปิง พาราไดซ์' และสนับสนุนธุรกิจโรงพยาบาล-สปา
- สบน. ระบุว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) ว่าทางเจบิกแจ้งไปยังกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ซึ่งเจบิกเป็นสมาชิกอยู่ว่าจะให้การสนับสนุนเงินกู้เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมูลค่า 31,000 ล้านบาทแก่ไทย หากประเทศสมาชิกโออีซีดีไม่คัดค้านภายใน 30 วัน เจบิกจะปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลไทยทันที โดยเงื่อนไขขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขของกลุ่มประเทศโออีซีดี
- บอร์ดทหารไทยได้ข้อสรุปเลือกไอเอ็นจี กรุ๊ป ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 25% แจงเสนอเงื่อนไขใหม่ที่ดีกว่าเดิม หลังดีบีเอสกลับลำบิดสู้ให้ราคา 1.60 บาทต่อหุ้น 'ฉลองภพ' ย้ำเป็นกลุ่มไหนก็ได้แต่ต้องให้ผลประโยชน์ผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และเงินเพิ่มทุน 3.5 หมื่นล้านบาท ต้องเสร็จภายในปีนี้ ส่วนคลังขายหุ้น อสมท ให้ออมสิน หาเงินอุ้มทหารไทย 7.5 พันล้านบาท
- ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าสินเชื่อปีหน้าโตสูงกว่าระบบหรือโต 13-15% เน้นเอสเอ็มอีและรายย่อย ขณะที่ดอกเบี้ยคงไม่มีโอกาสปรับลดแล้ว เตือนผู้ประกอบการเร่งปรับตัวรับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แนะรัฐบาลชุดใหม่ต้องมีนโยบายสร้างความยั่งยืนให้เอสเอ็มอี พร้อมปรับระบบคุมเอ็นพีแอล ต่ำกว่า 6% สิ้นปี รับปีหน้าแข่งแย่งเงินฝากเดือด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ