นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/64 ประมาณ 60% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปี 65 พร้อมประเมินเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10-15% จากปีก่อน โดยงานโครงการเป็นสัดส่วนรายได้หลักคิดเป็นประมาณ 60% ของรายได้ทั้งหมด และปีนี้มีสัดส่วนการส่งออกที่ 20%
แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/64 เร่งฟื้นตัว จากภาพรวมธุรกิจแสงสว่างเริ่มกลับมาเดินหน้าในยุคหลังโควิด ภาครัฐมีมาตรการเปิดประเทศ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง เป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค บรรยากาศการซื้อสินค้าและการลงทุนเริ่มกลับมาเดินหน้าตามแผน ทั้งการเปิดโมเดิร์นเทรด และห้างค้าปลีก รวมทั้งงานโครงการต่างๆ จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง การปรับปรุงที่อยู่อาศัย และอุปกรณ์แสงสว่างที่ก้าวล้ำตามเทคโนโลยี รวมถึงการลงทุนที่เกี่ยวกับ IoT solution รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ สนับสนุนภาพรวมสินค้าของ L&E ได้รับผลบวกจากปัจจัยดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสจากการขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ หลังสินค้าส่งไปขายให้ลูกค้าปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้ง การปรับโครงสร้างการส่งออกของ L&E มาเป็นส่วนธุรกิจต่างประเทศ ให้ชัดเจนมากขึ้น ทางด้านภาพรวมงานโครงการในกลุ่ม CLMV มองว่า จะมีการเติบโตที่ดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย จะเป็นปัจจัยบวกต่อ L&E ในปี 65 ให้เติบโตได้อย่างเต็มที่
"เรากำลังเข้าสู่สังคมยุคใหม่ มีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ มาสนับสนุนความสะดวกสบายมากขึ้น ธุรกิจแสงสว่างก็เช่นเดียวกัน บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นทางด้านวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่อินโนเวชั่น ได้แก่ Horticultural ไฟสำหรับปลูกต้นไม้ หรือ Entertainment Lighting ไฟสำหรับอีเว้นท์ และการแสดงต่างๆ เน้นพัฒนาเทคโนโลยี 5G เพื่อสนับสนุนกับกลุ่มธุรกิจ Smart City, Healthcare, Farming, Tourism และ Services เพื่อให้ธุรกิจของเราเติบโตไปพร้อมๆ กับเทรนด์การเติบโตของโลก จึงมองว่าในปี 65 L&E จะมีความพร้อมยิ่งขึ้น ในการขยายการเติบโตในไลน์สินค้ากลุ่มใหม่เหล่านี้" นายอนันต์ กล่าว