นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีโอกาสผันผวนทางขึ้น จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากความขัดแย้งเกี่ยวกับปริมาณการผลิตระหว่างสหรัฐฯกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปก) เป็นปัจจัยบวกระยะสั้น ที่รัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันดิบขณะที่กลุ่มโอเปกก็พร้อมชะลอหรือระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
ทำให้วันนี้จะมีบรรยากาศเก็งกำไร ได้ sentiment กลุ่มพลังงาน หนุนตลาดขึ้นมา แต่มองว่า 6 เดือนข้างหน้าก็ควรระวังการเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน เพราะปีหน้าเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวจากภายนอก แต่เป็นฟื้นตัวจากเศรษฐกิจภายในประเทศ น้ำหนักการเก็งกำไรหมุนมาเป็นกลุ่มโรงกลั่น สถานีบริการน้ำมัน ส่วนถ่านหิน หลังจากที่นโยายรัฐบาลจีนเริ่มนิ่ง น่าจะเป็นปัจจัยบวกถ่านหินฟื้นตัว
ส่วนกลุ่มไอซีที นักลงทุนต้องเริ่มระมัดระวังการลงทุนด้วยความไม่แน่นอน ในแง่ดีลควบรวมกิจการของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ต้องใช้ระยะเวลา ขณะที่ราคาของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ใกล้ราคาแนวต้านที่ 216 บาท ฉะนั้นกลุ่มไอซีทีมีการเคลื่อนไหวชะลอตัว
ให้แนวต้านที่ 1,650-1,660 จุด แนวรับที่ 1,635 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 พ.ย.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,813.80 จุด เพิ่มขึ้น 194.55 จุด (+0.55%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,690.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.76 จุด (+0.17%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,775.14 จุด ลดลง 79.62 จุด (-0.50%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 127.32 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 20.52 จุด หรือ +0.08% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.93 จุด หรือ +0.03%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 พ.ย.) 1,646.42 จุด ลดลง 3.12 จุด (-0.19%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,353.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 78.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 2.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 พ.ย.) อยู่ที่ 2.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.14 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดจับตา Flow-สถานการณ์โควิด-ตัวเลขศก.สหรัฐ
- กสทช.นั่งไม่ติดเตรียมแจงจุดยืนทำหน้าที่กำกับดูแลอุตฯ โทรคม หลังเจอกระแสเกียร์ว่างปล่อยควบรวม "ทรู-ดีแทค" ยอมรับยังทำอะไรไม่ได้มาก ต้องรอดูรายละเอียดที่ชัดเจน แหล่งข่าวเผย ดีลสำเร็จ เหตุกฎหมาย กสทช.ถูกแก้เปิดช่องโอนคลื่นความถี่แก่กันได้ "สมเกียรติ" ทีดีอาร์ไอ อัด กสทช.ไม่ทำหน้าที่พาโทรคมไทยถึงทางตัน สภาองค์กรของผู้บริโภครุมต้านหวั่นผู้บริโภคทางเลือกน้อย
- สกพอ.ลุยพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมการบิน ATZ 905 ไร่ 7 ธ.ค.นี้ จัดมาร์เก็ตซาวดิ้งดึงเอกชนลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ปั้นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน มอบสัญญาเช่า 30 ปี ตั้งเป้าเริ่มขั้นตอนคัดเลือกปี 2565 หวังแล้วเสร็จซัพพอร์ตเมืองการบินในปี 2568
- ไฟเซอร์เพิ่ม 30 ล้านโดส ฉีดเด็ก ส่งมอบไตรมาส 1-3 ปี 65 "อนุทิน" สั่งเร่งปูพรมฉีดวัคซีนสกัดเชื้อ-คลัสเตอร์ใหม่ แพทย์ชี้ไม่รับวัคซีนติดเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนรับวัคซีน สธ.จัดสัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีน 27 พ.ย. - 5 ธ.ค. ใช้มาตรการจูงใจฉีดวัคซีนรับของแจก หวังปูพรมให้ได้ตามเป้า 100 ล้านโดส
*หุ้นเด่นวันนี้
- LEO (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 13.00 บาท คาดเร่งปิดดีลช่วงปลายปี (Air freight) ขณะเดียวกันใน ธ.ค. เริ่มให้บริการ Self-Storage และลานเก็บตู้ Container ผู้บริหารประเมินรายได้ปี 65 โต 20-25% ฝั่ง Demand การขนส่งยังคงเพิ่มขึ้นและจะชดเชยค่าระวางที่โดยเฉลี่ยอาจจะไม่สูงเท่าปี 21 ได้ KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 170 ลบ. และ 185 ลบ. +198.5%YoY, +8.8%YoY ตามลำดับ
- CK (ฟินันเซีย ไซรัสป "ซื้อ" เป้า 26 บาท มีประเด็นบวกโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ JV กับ STEC สัญญา 2-3 มูลค่างาน 2.3 หมื่นลบ. (สัดส่วน 50%) เซ็นได้ทันปีนี้ หนุน Backlog จากปัจจุบัน 2.6 หมื่นลบ.มีงานรอประมูลอีกหลายโครงการโดยเฉพาะรถไฟฟ้าม่วงใต้และส้มมูลค่าสูง รวมถึงงานของ CKP อย่างโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง คาดได้ข้อสรุปปีหน้า ประเมินกำไรปี 65 ฟื้นตัวแรง +82% Y-Y