นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ย.เมื่อคืนที่ผ่านมาระบุว่า เฟดมีความพร้อมที่จะเร่งเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว และตัวเลขการจ้างงานก็ดีขึ้นเป็นตัวสนับสนุนด้วย โดยตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.65
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลงหลังจากที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ช่วงหลังมานี้ได้เห็น Fund Flow ไหลเข้ามาในตลาดในกลุ่ม TIP เป็นผลจากการมองเศรษฐกิจในปี 65 จะฟื้นตัว พร้อมให้ติดตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) จะเป็นอย่างไร และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในยุโรป รวมถึงในเอเชียด้วย
ส่วนบ้านเรายังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิง จะออกมาอย่างไร เนื่องจากมีผลต่อการสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงปีใหม่จะมีอะไรบ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,643-1,636 จุด ส่วนแนวต้าน 1,658-1,666 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,804.38 จุด ลดลง 9.42 จุด (-0.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,701.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด (+0.23%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,845.23 จุด เพิ่มขึ้น 70.09 จุด (+0.44%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 166.99 จุด หรือ +0.57%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 14.19 จุด หรือ +0.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.69 จุด หรือ +0.02%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 พ.ย.)1,649.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.40 จุด (+0.21%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,504.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 78.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 พ.ย.) อยู่ที่ 3.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.37 อ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งค่าขานรับตัวเลขศก.สหรัฐ-เฟดเร่งลด QE
- ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ส.อ.ท. ฟันธงอุตสาหกรรมเหล็กฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 แล้ว หลังจากปี 2563 ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยหดตัว 12% คาดปี 2564 ความต้องการใช้เหล็กเพิ่ม 15% มั่นใจนโยบายภาครัฐช่วยดันปริมาณการใช้เหล็กโตต่อเนื่องถึงปี 2565
- นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันสถาบันการเงินแบกรับภาระหนี้ก้อนใหญ่อยู่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเรียกว่าเป็นหน้าผาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลของสถาบันการเงินทั้งประเทศ แต่ไม่รวมสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยที่ผ่านมาต้องชื่นชมธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และรัฐบาลที่ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการช็อกและล้มลง
- กบง.ไฟเขียวปรับสูตรดีเซลเหลือบี 7 เท่านั้น! หวังกดราคาขายปลีกไม่เกิน 28 บาท/ลิตร กำหนดใช้ ธ.ค.64-มี.ค.65 ด้าน สนพ.เผย 9 เดือน ยอดใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 0.01% ทั้งปีเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 2/2564 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณากำหนดอัตรายอดคงค้างของภาระที่รัฐต้องชดเชย ตามมาตรา 28 ภายใต้พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง จากไม่เกิน 30% เป็นไม่เกิน 35% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทำให้การก่อหนี้เพิ่มได้อีก 155,000 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- EKH-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 149,999,729 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 6.30 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (15 พฤศจิกายน 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 14 พ.ย. 2565 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 14 พ.ย. 2567
- GFPT (กรุงศรี)"ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 15 บาท ราคาหุ้นลดลงสะท้อนผลการดำเนินงานที่ขาดทุน 87 ล้านบาทใน Q3/64 ไปแล้ว แนะดักซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาไก่ในประเทศเริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 35 บาท/ก.ก. จากเฉลี่ย 30 บาท/กก. ในเดือน ต.ค. และบางพื้นที่ปรับขึ้นเป็น 43 บาท/ ก.ก.
- TKS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 22 บาท คาดกำไร Q4/64 ฟื้นตัวเด่นตามการ Reopening และส่วนแบ่งกำไรจาก SYNEX ที่จะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยยะทำ New High จาก High Season และ iPhone13 ที่ขายเกือบเต็มไตรมาส จุดเด่นยังคงเป็น Valuation ที่ยังถูก โดยยังมี Discount จาก NAV ของ SYNEX เกือบ 40% และเสมือนได้ธุรกิจโรงพิมพ์ของ TKS และหุ้น SABUY 9.68% ฟรี พร้อมให้แนวรับ 12.30-12 บาท แนวต้าน 13-13.20 ถัดไป 14 บาท