(เพิ่มเติม) PDIคาดปี 50 กำไรสุทธิต่ำกว่าปี 49/หากไม่ได้ต่ออายุเหมืองปีนี้ต้นทุนสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 12, 2007 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

           นางวรทิพย์ ฤกษ์พิบูลย์ ผู้จัดการส่วนอาวุโสการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี(PDI) คาดปี 50 กำไรสุทธิจะต่ำกว่าปี 49 ที่มีกำไรสุทธิ 1.76 พันล้านบาท สาเหตุจากต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบแร่สังกะสีในประเทศผลิตได้ไม่เพียงพอ จึงต้องนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเปรู และออสเตรเลีย ซึ่งมีราคาสังกะสีสูงกว่าที่ผลิตได้เอง ประกอบเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย
"กำไรปีนี้ปรับตัวลดลงมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น และเรื่องค่าเงินที่แข็งค่า เนื่องจากการนำเข้าสังกะสีมีราคาสูงกว่าที่ผลิตเอง แต่พอถึงเวลาขายบางส่วนขายได้ราคาต่ำ"นางวราทิพย์ กล่าว
บริษัทยังคาดว่า รายได้ในไตรมาส 4/50 ลดลงจากไตรมาส 3/50 เนื่องจากราคาขายสังกะสีปรับตัวลดลง โดยราคาเฉลี่ยในไตรมาส 4/50 จะต่ำกว่า 3,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากไตรมาส 3 มีราคาเฉลี่ย 3,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ประกอบกับ ผลผลิตของบริษัทก็ลดลง โดยในปี 50 บริษัทมีสัดส่วนใช้แร่ในประเทศน้อยกว่าปีก่อนที่มีสัดส่วน 42%
ส่วนการยื่นขอประทานบัตรเหมืองแร่สังกะสีที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก ต่ออายุ 15 ปี นั้น คาดว่าจะได้รับการต่ออายุสัมปทานภายในปี 50 แต่หากการอนุมัติล่าช้าบริษัทก็จะได้รับผลกระทบด้านผลผลิตที่จะมีแหล่งแร่ในประเทศลดลง และจะต้องนำเข้าสังกะสีในปริมาณที่สูง จะส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนสูงกว่าการใช้แหล่งแร่สังกะสีในประเทศ
นอกจากนี้ บริษัท แพน ออสเตรเลียน รีสอร์ซ ซึ่งร่วมทุนกับ บริษัท ภูเทพ จำกัด ซึ่งบริษัทย่อย ในการสำรวจแหล่งแร่ทองแดง จ.เลย โดยบริษัท ภูเทพ ถือหุ้นใหญ่ 78%นั้น นางวราทิพย์ กล่าวว่า ระหว่างนี้ แพน ออสเตรเลียฯ ขอเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจากปัจจุบันที่ 22% เป็น 60% ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในปลายปี 51 ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ทางแพน ออสเตรเลียฯสามารถเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นได้ถึง 60%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ