นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 จะสามารถเติบโตได้ 5-8%จากปีนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศ และเริ่มเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวด้วย ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร ร้านค้า ผู้ประกอบการรถ Taxi รวมไปถึงมีการขับเคลื่อนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว อีกทั้งราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้แก๊สในภาคธุรกิจขนส่งเริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ จะส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัท
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 64 นี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกที่ทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี จากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น โดยจากการสำรวจราคาเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 3 ราคาขยับขึ้น 137.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 4/64 ราคาปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 185 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ราคาก๊าซ LPG ในปัจจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจก๊าซ LPG ในต่างประเทศอย่างชัดเจน สนับสนุนให้รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์แอลพีจีขยับสูงขึ้น "ทิศทางผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจะต่อเนื่องไปในปี 65 โดยบริษัทยังคงแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง"นางจินตณา กล่าว