ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,648.46 จุด ลดลง 1.36 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 73,548.06 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,656.46 จุด และระดับต่ำสุด 1,644.87 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 616 หลักทรัพย์ ลดลง 1,187 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 655 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.5% จากที่ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการในวันนี้ (25 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ไม่มีปัจจัยชี้นำ ส่งผลให้หุ้นขนาดกลางวันนี้ดูจะมีสีสันมากกว่า อย่างไรก็ดี ตลาดฯรับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มพลังงานก็กดดันหลังราคาน้ำมันปรับตัวลง
ด้านตลาดหุ้นในยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นได้ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในยุโรปยังไม่ดีขึ้น แต่หลายประเทศต่างก็เลือกใช้การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ด้วยการควบคุมบางพื้นที่ หรือบางกิจกรรม ไม่ได้ใช้การล็อกดาวน์ ทำให้ยุโรปกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ รวมทั้งการเมืองในเยอรมนีก็มีความคืบหน้าในทางบวกเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,645 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด พร้อมมองหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะสร้างสีสันให้ตลาดฯ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,102.76 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,866.92 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,230.11 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
SVOA มูลค่าการซื้อขาย 1,911.50 ล้านบาท ปิดที่ 2.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,824.89 ล้านบาท ปิดที่ 11.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง